บรรเทาทุกข์ ทหารอุดรฯขน "ผัก-หมู-ไข่" ใส่ "รถปันสุข" ออกแจกปชช.ตามหมู่บ้าน

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.30 น. ที่กองบังคับการ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 13 ค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา ต.โนนสูง อ.เมือง กำลังพลของกองพันทหารราบที่ 1 นำสิ่งของอุปโภค บริโภค ที่มีพืชผักหลากหลายชนิด ทั้งผักบุ้ง แตงกวา ต้นหอม ผักชี น้ำมันพืช ไข่ไก่ น้ำปลา ผงปรุงรส และหน้ากากอนามัย แยกรวมใส่ถุงนำมาแขวนไว้ที่โครงหลังคากระบะหลังรถกระบะของหน่วยที่ทำเป็นรถพุ่มพวง ที่มีป้ายติดที่รถว่า "รถปันสุข เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน" เพื่อนำสิ่งของไปแจกให้ชาวบ้านตามชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบค่าย

 

 

โดยวันนี้กำลังพลของกองพันทหารราบที่ 1 ได้นำรถปันสุข หรือรถพุ่มพวง ออกไปแจกของให้กับชาวบ้านเป็นครั้งที่ 2 ที่บ้านหนองตะไก้น้อย หมู่ 7 ต.โนนสูง ซึ่งมีชาวบ้านมารอรับสิ่งของที่ศาลากลางบ้าน โดยปฏิบัติตัวในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งขณะรับสิ่งของจะให้ชาวบ้านล้างมือด้วยแอลกออล์ที่เตรียมไว้ให้ จากนั้นจึงเลือกหยิบพืชผักที่วางอยู่เอง แล้วให้เปิดถุง โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารจะหยิบน้ำมันพืช น้ำปลา ไข่ ใส่ในถุงให้ หลังได้ของแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน ไม่ให้มีการรวมกลุ่ม

 

 

 

 

 

หลังจากนั้นทหารได้ขับรถพุ่มพวงปันสุข ไปที่บ้านของนางอำนวย อยู่เจริญ อายุ 74 ปี เลขที่ 9849 หมู่ 7 บ้านหนองตะไก้น้อย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา (ตาบอด) และหูตึง โดยนำสิ่งของไปมอบให้

โดย นางอำนวย กล่าวว่า ตนตาบอด หูหนวกและขาพิการ มา 3 ปีแล้ว ส่วนนายนายสัมฤทธิ์ อยู่เจริญ อายุ 77 ปี สามีมีอาการตาฝ้าฟางมองไม่ค่อยเห็น อยู่ด้วยกัน 2 คน ส่วนลูกชายขับรถไปส่งของต่างจังหวัดแบบไปกลับ และลูกสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯส่งเงินมาให้ใช้บ้างเล็กน้อย และตอนนี้มีหลานสาวมาอยู่เป็นเพื่อนเวลาลูกชายไปต่างจังหวัด เพื่อช่วยเหลือหาข้าวปลาอาหารให้กิน ดีใจมากที่ทหารนำผักมาแบ่งปันให้ ก็ขอให้เจริญๆ

 

 

ทางด้าน นางสมาน แก้วชมพู อายุ 64 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านหนองตะไก้น้อย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี หมอนวดแผนโบราณ บอกว่า ตนเคยเปิดร้านนวดอยู่ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีรายได้เดือนละประมาณ 30,000 - 40,000 บาท พอโควิดระบาดก็ไม่มีแขกชาวต่างชาติเลย ทำให้ไม่มีรายได้ จึงปิดร้านนวดและกลับมาอยู่บ้านเมื่อเดือน ม.ค.64 และต้องปรับตัวให้อยู่ให้ได้ด้วยการใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด ต้องนำเงินเก็บมาใช้และลูกส่งมาให้ใช้เล็กน้อย ใช้วันละ 50-100 บาท หากโควิดหมดแล้วจะกลับไปเปิดร้านนวดที่เกาะสมุยเช่นเดิม วันนี้ดีใจที่ทหารนำผัก ไข่ เนื้อหมู น้ำมันพืชมาแจก ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง

 

 

นางจงรักษ์ แดดขุนทด อายุ 50 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 บ้านหนองตะไก้น้อย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี อาชีพขายนำปั่นและอาหารถุงที่หน้าบ้าน เผยว่า เมื่อก่อนมีรายได้วันละ 1,000 - 1,500 บาท หลังจากโควิดระบาดก็ยังเปิดร้านขายของเหมือนเดิม แต่ขายได้เพียง 400 - 500 บาท ทุนก็ร่อยหรอลง ค้าขายช่วงนี้ก็ยากลำบากคนไม่ค่อยซื้อ แถมตนยังมีหนี้สินรุงรังเพราะต้องยืมเงินมาลงทุน ยืมเจ้านั้นมาใช้หนี้เจ้านี้ สามีก็ป่วยแถมลูกสาวยังต้องหยุดงานอีก ตนต้องหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวคนเดียว หาไปด้วยใช้ไปด้วยทำให้เงินไม่พอ ดีใจที่ทหารมาช่วยเหลือของที่รับแจกวันนี้ก็จะนำไปทำกับข้าวได้ 1 วัน

 

 

 

 

จ.ส.อ.กิตติพงษ์ จรรยาวุฒิ นายสิบสื่อสาร ร.13 พัน 1 เปิดเผยว่า รถปันสุขเป็นนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก จึงจัดให้มีรถพุ่มพวง แต่ให้ใช้ศักยภาพของแต่ละหน่วยที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนตามพื้นที่รอบค่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นสิงอุปโภค บริโภคต่างๆ ตามที่หน่วยจะมีศักยภาพที่จะมอบให้ หน่วยกองพันทหารราบที่ 1 พลทหารราบที่ 13 นำสิ่งอุปโภค เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ที่หน่วยสนับสนุนหรือซื้อมามอบให้ส่วนหนึ่ง ส่วนพืชผักได้นำมาจากโครงการศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่หน่วยได้จัดตั้งขึ้น มีทั้งพืชผักตามฤดูกาล หรือตามที่ผลิตออกมา ซึ่งได้นำออกมาแจกชาวบ้านเป็นครั้งที่ 2 ผลตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งผู้บังคับการกองพันจัดให้มีโครงการลักษณะเช่นนี้สัปดาห์ละ 1 หมู่บ้าน ผลผลิตในศูนย์การเรียนรู้พอเพียงที่จะแจกจ่าย นอกจากนี้ยังมีครอบครัวกำลังพลที่เข้าร่วมกิจกรรม "บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง" แบ่งผักมาให้ ซึ่งเชื่อว่าผลผลิตมีเพียงพอต่อการแจกจ่ายในครั้งนี้

 

 

 

 

 

โดย กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดอุดรธานี