กรมหม่อนไหมหนุนเกษตรกรหม่อนไหมบ้านสนสามัคคี จ.สุรินทร์ เลี้ยงไหมอุตสาหกรรมรังขาวตามนโยบายตลาดนำการผลิต 

เกษตรกรกลุ่มบ้านสนสามัคคี ตำบลสะเดา อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ก่อตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ซึ่งกรมหม่อนไหม โดยศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สุรินทร์ ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ ส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม พัฒนาการผลิตตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agriculture Practices : GAP) และต่อยอดการตลาดไปสู่ระบบเกษตรพันธสัญญา หรือการซื้อขายผลผลิตล่วงหน้า ตามนโยบายตลาดนำการผลิต ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรมีตลาดที่แน่นอน และมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ โดยผลผลิตรังไหมของชาวบ้านได้จำหน่ายให้แก่บริษัท จุลไหมไทย จำกัด ซึ่งมีการรับซื้อผลผลิตตามเกณฑ์มาตรฐานและเป็นธรรม อีกทั้งยังได้จัดเจ้าหน้าที่มาประจำในพื้นทิ่เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้แก่เกษตรกรด้วย

เกษตรกรกลุ่มนี้ได้ริเริ่มเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม (รังขาว) ตั้งแต่ปี 2537 โดยการรวมกลุ่มของสมาชิกที่สนใจการเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมซึ่งศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สุรินทร์ ได้ร่วมกับบริษัท จุลไหมไทย ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแก่เกษตร  และศูนย์ฯ ได้สนับสนุนปัจจัยการผลิตพื้นฐาน ร่วมกับงบพัฒนาจังหวัด ในโครงการยกระดับและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ติดตั้งระบบน้ำในแปลง 101.70 ไร่  โครงการพัฒนาสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน GAP  โดยได้ดำเนินการตรวจแปลงที่ผ่านมาตรฐาน ของเกษตรกร  16 ราย พื้นที่ 86 ไร่  และโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่

ทางด้านการตลาด เกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในระบบเกษตรพันธสัญญา ตามนโยบายตลาดนำการผลิต ตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้เกษตรกรมีตลาดรับซื้อรังไหมล่วงหน้ามีรายได้ที่แน่นอน มีความมั่นคงในการประกอบอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและพัฒนาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้มีคุณภาพมาตรฐาน  ปัจจุบันมีเกษตรกรกลุ่มบ้านสนสามัคคีที่เข้าระบบเกษตรพันธสัญญาในเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม (รังขาว) แล้ว จำนวน 89 ราย พื้นที่ 520 ไร่ มีรายได้ 8,000 – 25,000 บาทต่อรุ่น คิดเป็น 5,000,000 – 6,000,000 บาทต่อปี  

นอกจากนี้ กลุ่มบ้านสนสามัคคียังเป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายองค์ความรู้ด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถนำไปปฏิบัติได้ตรงตามเป้าหมาย ส่งผลให้การผลิตหม่อนไหมอุตสาหกรรมมีประสิทธิภาพทั้งด้านปริมาณและคุณภาพมาตรฐานต่อไป