ข่าว

ค่ายสุรสีห์ปฎิญาณตนเป็นทหารมีวินัย

ค่ายสุรสีห์ปฎิญาณตนเป็นทหารมีวินัย

30 ม.ค. 2553

นักรบดำรวมพลให้กำลังใจ"อนุพงษ์" โวยถูกอ้างชื่อไปเคลื่อนไหวทางการเมือง ย้ำใส่เครื่องแบบทหารพรานไปร่วมม็อบย่ำยีศักดิ์ศรีร้ายแรง ด้านกองทัพน้อยที่ 3 แสดงพลังปกป้องศักดิ์ศรีทหาร

(29ม.ค.) ที่กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา นายบุญรอด ธารสูงเนิน อาสาสมัครทหารพรานอาวุโสค่ายปักธงชัยนำกำลังอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย กว่า 200 นายพร้อมอดีตอาสาสมัครทหารพรานชมรมอดีตนักรบดำโคราช ซึ่งนำโดยนายอัมพร จันทร์ชมชื่น ที่ปรึกษาและอดีตประธานชมรมอดีตนักรบดำโคราช อีกจำหนวนหนึ่ง ร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าอนุสาวรีย์วีรชนอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย

 พร้อมอ่านแถลงการณ์ป้องป้องผู้บังคับบัญชาและประณามกลุ่มบุคคลที่นำศักดิ์ศรีอาสาสมัครทหารพรานไปแอบอ้าง เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมเรียกร้องให้อาสาสมัครทหารพรานและอดีตอาสาสมัครทหารพราน ที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวให้ยุติการกระทำ หรือถ้าเป็นความประสงค์โดยส่วนตัวก็ขอให้ไปในนามส่วนตัว อย่างนำเอาศักดิ์ศรีการเป็นทหารพรานไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะการใส่เครื่องแบบไปร่วมเคลื่อนไหวถือเป็นการกระทำที่ย่ำยีศักดิ์ศรีทหารพรานอย่างร้ายแรง จากนั้นนายบุญรอด นำแถลงการณ์ยื่นต่อ พ.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บังคับการ กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย เพื่อส่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป

  นายอัมพร จันทร์ชมชื่น ที่ปรึกษาและอดีตประธานชมรมอดีตนักรบดำโคราช กล่าวว่า อาสาสมัครทหารพราน รวมถึงอดีตอาสาสมัครทหารพรานทุกนาย ขอยืนหยัดที่จะปกป้องสถาบันหลักของประเทศ ปกป้องผู้บังคับบัญชาและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด  จะยึดถือปฏิบัติตามระเบียบวินัย ข้อบังคับ และยืนยันจุดยืนที่จะไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหวในกิจกรรมทางการเมืองทุกกรณี การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก

 เนื่องจากที่ผ่านมาพล.ออนุพงษ์รับปัญหากลุ่มต่างๆที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะต้องรับภาระและแรงกดดันอย่างหนัก แต่ไม่มีการออกมาตอบโต้ แม้ว่าจะมีคนว่าร้ายทำให้เสื่อมเสียขนาดไหนก็ตาม เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นกับบ้านเมือง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือมีความเป็นลูกผู้ชายและเป็นชายชาติทหารอย่างแท้จริง

  นายอัมพร กล่าวว่า กรณีที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามที่จะนำเอาชื่ออดีตอาสาสมัครทหารไปใช้เป็นเครื่องมือต่อรองและเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ขอฝากไปยังกลุ่มที่เคลื่อนไหวว่า การออกมาเคลื่อนไหวโดยเฉพาะบุคคลในระดับนายทหาร รวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชาระ ดับสูงที่เกษียณอายุราชการออกไป ไม่ควรนำเอาศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของความเป็นทหารไปร่วมในการเคลื่อนไหวด้วย เพราะถือเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของทหารอย่างร้ายแรงโดยเฉพาะการสวมเครื่องแบบเข้าร่วมการเคลื่อนไหวและทำการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกภายในชาติ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทหารทุกนายไม่ควรปฏิบัติอย่างที่สุด 

  ด้านพ.อ.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บังคับการ กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย กล่าวว่า  การเคลื่อนไหวของอาสาสมัครทหารพรานและอดีตอาสาสมัครทหารพรานในครั้งนี้ อาจเกิดจากการที่กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้ได้รับรู้ข่าวสารถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่พยายามจะปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยก นำเอาสถาบันทหารมาเป็นเครื่องมือเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีการนำชื่อเสียงเกียรติภูมิของทหารไปแอบอ้างเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง

 จึงทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถทนนิ่งเฉยอยู่ได้ จึงออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อต้องการปกป้องศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของทหารไทย  ทั้งนี้ทางกรมทหารพรานที่ 26 ยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นความต้องการของกลุ่มอาสาสมัครทหารพรานเองไม่มีการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาเพื่อสร้างภาพแต่อย่างใด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามธารีฉัตร ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ กองทัพภาคที่ 3 พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพน้อยที่ 3 นำทหารในหน่วยขึ้นตรง 17 หน่วย จำนวนกว่า 1,200 นาย ประกอบพิธีการรวมพลังของกำลังพลของหน่วยต่างๆในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ กองทัพภาคที่ 3 เพื่อเป็นการแสดงพลังปกป้องศักดิ์ศรีของทหาร โดยพิธีนี้ได้จัดขึ้นที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์สมเด็จพระเอกาทศรถ

 โดยทางหน่วยทหารได้อ่านแถลงการณ์ต่อเหล่าทหารที่มาร่วมแสดงพลังว่า หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวของอดีตทหาร ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง มีการแสดงความคิดที่ไม่สอดคล้องกัน ตลอดจนการที่ทหารบางนายใช้คำพูดไม่เหมาะสมหลายอย่างหลายประการต่อผู้บังคับบัญชาเหนือตน ซึ่งทำให้เป็นการทำลายศักดิ์ศรีและเกียรติของทหาร ทำให้เหล่าทหารจักต้องรักษาไว้ด้วยการแสดงรวมพลังที่ปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีให้เป็นที่ปรากฏ

 โดยวันนี้เหล่าทหารจากกองทัพน้อยที่ 3 ได้ให้สัจจะแก่ตนเองต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเอกาทศรถ ว่า จะไม่ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่เป็นการทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีของทหาร ขอให้ทหารทุกนายรักษาคำปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล ที่ว่า “ ข้าพเจ้า จักเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ทั้งจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม”

 จากนั้นเหล่าทหารที่มาร่วมพิธีการรวมพลังของกำลังพลของหน่วยขึ้นตรงได้ร่วมร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา เพลงมาร์ชกองทัพบก ต่อไป

 สำหรับ พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพน้อยภาคที่ 3 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก และเป็นรุ่นน้องของ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่นที่ 11 เช่นเดียวกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ ” เสธแดง ”

กองกำลังสุรนารีประณามทหารแตกแถว

 ที่หน้าอนุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กำลังรบหลักกองกำลังสุรนารี มีการรวมของหทารหน่วยรบประจำกองพลทหารราบที่ 6 และหน่วยขึ้นตรงภายในหน่วย กว่า 500 นาย เพื่อแสดงพลังในการร่วมกันปกป้องสถาบันทหาร และปกป้องผู้บังคับบัญชา จากการที่มีทหารใช้ความเป็นข้าราชการทหารเข้ามาจาบจ้วงสถาบันทหารและผู้บังคับบัญชา โดยมี พ.อ.วุธ แสงจักร รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 เป็นเป็นประธาน รับทราบเจตนารมย์ที่เสนอไปยังผู้บังคับบัญชา พร้อมกับรับรู้และร่วมกิจกรรมการแสดงความคิดเห็น ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของทหารแตกแถว และกล่าวคำปฏิญาณตนเป็นทหารที่ดีของชาติและปฏิบัติตามกฎระเบียบโดยเคร่งครัด
 
 วันเดียวกันที่หน้าค่ายจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด หน่วยรบจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารรบที่ 16 และกองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 6 ค่ายประเสริฐสงคราม กว่า 500 นายแสดงพลังในการปกป้องสถาบันทหาร ไม่เห็นด้วยกับการที่ทหารบางคนใช้ความเป็นทหาร ทำการจาบจ้วงสถาบันทหารและดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาระดับสูง และมีการส่งมอบหนังสือให้กำลังใจต่อผู้บังคับบัญชา ผ่านพลตรีไชยพรรัตแพทย์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด  ส่งต่อไปยังผู้บังคับบัญชาต่อไป

“บิ๊กบัง”อุ้มหน่วยรบตบเท้าให้กำลังใจนาย

 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ถ้าตราบใดไม่ทำผิดกฎหมาย เป็นเรื่องของประชาธิปไตย ส่วนกรณีที่ผู้บังคับหน่วยต่าง ๆ ได้ออกมรตบเท้าแสดงความไม่พอใจ พล.ต.ขัตติยะ นั้น คงมีการไตร่ตรองกันก่อนแล้ว ทหารก็เป็นประชาชน หากมีสิ่งใดที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจก็มีมาตรการที่สามารถทำได้ แต่การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ต้องอยู่ในกฎระเบียบวินัย ส่วนกรณีที่พล.ต.ขัตติยะ พูดจาให้ผู้บังคับบัญชาได้รับความเสื่อมเสีย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า กองทัพมีมาตรการดำเนินการทางวินัยอยู่แล้ว ถ้าทำผิด ก็สามารถตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษได้

นปอ.-ปตอ.ปฏิญาณภักดีเชื่อฟังคำสั่งผบ.ทบ.

 เมื่อเวลา 08.00 น.ที่กองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (พล.ปตอ.) - พล.ท.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ(นปอ.) นำกำลังพลหน่วย ปตอ.และหน่วย นปอ. ทำพิธีถวายสัตย์ปฎิญาณเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี และแสดงออกถึงความมีระเบียบวินัยในการเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

 พล.ท.ยุทธศิลป์ กล่าวว่า อยากให้กำลังพลทุกนายได้มีความสำนึกบุญคุณของประเทศชาติ เป็นมิตรต่อประชาชน เชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชา ปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด และจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ ซึ่งการนำกำลังพลออกมาถวายสัตย์ เป็นเรื่องที่เราทำประจำอยู่แล้ว เพื่อให้กำลังพลตระหนักถึงหน้าที่ในการทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน ยืนยันว่าหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก และหน่วยขึ้นตรง มีความเป็นเอกภาพ มีความรักสามัคคีกันในทุกเรื่อง ทั้งนี้ กำลังพลทุกคนได้ปฏิบัติตามตามนโยบายของ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้เน้นย้ำเสมอว่า ให้หน่วยของเราสร้างทหารให้มีอุดมการณ์ในความรักชาติ เสียสละ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและจะทำในกรอบวินับระเบียบของทหารว่าจะต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

ทหารค่ายสีวะรารวมพลให้กำลังใจผบ.ทบ. 

 เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการจังหวัดทหารบกสกลนคร  ค่ายกฤษณ์สีวะรา   อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร    พล.ต.ณรงค์ดิส   สีทาแก  ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสกลนคร  พร้อมด้วย และ พ.ท.ธงชาติ    โล่งจิตร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1  กรมทหารราบที่ 3    นำ ข้าราชการทหารและกำลังพล  จำนวน  2,000 นาย ร่วมแสดงพลังในการร่วมกันปกป้องสถาบันทหาร  ซึ่งจากสถานการณ์ที่ผ่านมา  มีบางกลุ่มใช้ข้าราชการทหารทำการจาบจ้วงสถาบันทหาร   ซึ่งในระบบของทหารนั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดอย่างร้ายแรง  ผู้ใต้บังคับบัญชาจึงออกแถลงการณ์พร้อมกับกล่าวปฏิญาณตนเป็นทหารของชาติ 

ฉก.ทัพพระยาเสือปฎิญาณตนเป็นทหารมีวินัย

 เมื่อเวลาเวลา 16.30 น. วันนี้ (29 ม.ค. 53) พ.อ. มนตรี ช้างพลายแก้ว ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังสุรสีห์ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้นำข้าราชการทหารของหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังสุรสีห์ และหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการ กองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 947 952 955 ชุดปฎิบัติการกิจการพลเรือนที่ 107 หมวดบรรทุกต่างกองกำลังสุรสีห์ และชุดมวลชนพัฒนาสัมพันธ์ ที่ 1202 1204 1205 รวมกว่า 200 นาย กล่าวคำสัตย์ปฎิญาณตนเพื่อเป็นข้าราชการ และเป็นผู้ใต้บังคับบัญาชาที่ดี ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ

 พ.อ. มนตรี กล่าวว่า เนื่อง จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันได้เกิดความแตกแยกทาง ความคิดซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ และสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน นอกจากนั้นยังได้ส่งผลกระทบต่อความสามัคคีความมีระเบียบวินัยและความเป็นปึกแผ่นของกองทัพ ทำให้ข้าราชการทหารซึ่งล้วนมีจิตมุ่งมั่นที่จะสนองคุณแผ่นดินอย่างเต็มความสามารถ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมใจกันแสดงพลังในการเป็นข้าราชการทหารที่ดี เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นทหารของประชาชน นอกจากนี้เราจะเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี เป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับเหล่าทหาร และเป็นการ สร้างความเป็นปึกแผ่น แก่หน่วย และกองทัพ ที่พร้อมที่จะปกป้องเอกราช และอธิปไตยของชาติให้ยั่งยืนสถาพรสืบไป

ทบ.แจงเดือน ก.พ.กองทัพเคลื่อนกำลังฝึกภาคสนาม

 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในช่วงตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ กองทัพบกจะทำการฝึกภาคสนามของหน่วยในระดับกองพล ซึ่งเป็นการฝึกตามวงรอบประจำปี เพื่อเตรียมกำลังให้พร้อมปฏิบัติการรบในภารกิจป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายในและพัฒนาประเทศ รวมถึงเพิ่มทักษะให้ทหาร เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะทำการฝึกในหลายพื้นที่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในช่วงเวลาดังกล่าวหน่วยทหารของกองทัพบกจะมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์จากที่ตั้งหน่วยทหารไปยังพื้นที่ฝึกต่างๆ

 “ สำหรับวัน เวลา และสถานที่ในการเคลื่อนย้ายุทโธปกรณ์ เพื่อทำการฝึกที่สำคัญมีดังนี้ ในวันที่ 28 ม.ค.- 9 ก.พ.53 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ไปทำการฝึกรักษาสันติภาพในการฝึกคอบร้าโกลด์ 2010 ณ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และวันที่ 3-14 ก.พ.53 พล.1 รอ. จะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์จาก กทม.ไปทำการฝึกภาคกองร้อยที่ จ.กาญจนบุรี โดยในวันที่ 3 ก.พ.นี้ เวลา 05.00-12.00 น. จะทำการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์จำนวนมาก โดยจะใช้พื้นที่เกียกกาย สะพานแดง และประดิพัทธ์ กองทัพบกจึงขออภัยในความไม่สะดวก ” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว