ข่าว

"อียิปต์"ชิง"กานา"ศึกแอฟริกา เนชั่นส์ คัพ

"อียิปต์"ชิง"กานา"ศึกแอฟริกา เนชั่นส์ คัพ

29 ม.ค. 2553

อียิปต์ แชมป์เก่าถล่ม แอลจีเรีย 4-0 เข้าชิงกับ กานา ที่เอาชนะ ไนจีเรีย 1-0 ศึกแอฟริกา เนชั่นส์ คัพ

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปแอฟริกา ครั้งที่ 27 หรือ "แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2010" รอบรองชนะเลิศ กลางดึกวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า อียิปต์ แชมป์เก่า ชนะ แอลจีเรีย 4-0 คอมเปลโซ ดา เซอร์ ดา กราซา โดย "จิ้งจอกทะเลทราย" ต้องเหลือผู้เล่น 8 คน ในเกมนี้ เมื่อ ราฟิก ฮัลลิเช, นาเดียร์ เบลฮัดจ์ และ ฟาอุยซี ชาอุยชี ถูกใบแดงไล่ออกนาที 38, 70 กับ 88 ตามลาดับ

 ส่วน"มัมมี่"ได้ประตูจากจุดโทษของ ฮอสนี อับดี ราบู นาที 39, โมฮัมเหม็ด ซีดาน นาที 65, โมฮัมเหม็ด อับเดลชาฟี นาที 81 และ โมฮัมเหม็ด "เก็ดโด" นากี นาที 90 ส่งผลให้ "เก็ดโด" ยิงรวม 4 ประตู ขึ้นนำดาวยิงสูงสุดทันที นอกจากนั้น "ฟาโรห์" ยังทำสถิติไร้พ่ายในถ้วยใบนี้เป็นนัดที่ 18 ติดต่อกันแล้ว

 ส่งผลให้อียิปต์ ล้างแค้น"เดอะ ดีเสิร์ท ฟอกซ์" สำเร็จ เนื่องจากทั้งคู่เคยเป็นคู่เพลย์ออฟ รอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2010 โซนแอฟริกา หลังจากทั้งคู่อยู่ในกลุ่ม ซี ด้วยกัน และจบ 6 นัด ด้วยสถิติ ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 9 เสีย 4 มี 13 แต้ม เท่ากันทุกอย่าง จึงต้องมาดู "เฮดทูเฮด" ของการพบกันเอง ก็ปรากฏว่าเท่ากันอีก เนื่องจาก แอลจีเรีย ชนะเกมเหย้า 3-1 ส่วน อียิปต์ ชนะเกมเหย้า 2-0 ทำให้หาแชมป์กลุ่มไปเล่นที่แอฟริกาใต้ไม่ได้ จึงต้องเล่นรอบเพลย์ออฟที่สนามเป็นกลางในประเทศซูดาน และ แอลจีเรีย ชนะ 1-0

 หลังเกมฮอสนี มูบารัค ประธานาธิบดีอียิปต์ ส่งสาส์นแสดงความยินดีต่อนักเตะ "ฟาโรห์" ทันที พร้อมคำชมว่า "เป็นผลงานที่ถือว่าไม่ธรรมดา" อีกด้วย

 ส่วนอีกคู่ที่เมืองลูอันดา กานา ชนะ ไนจีเรีย 1-0 จากการโขกลูกเตะมุมของ อซาโมอาห์ กียาน นาที 21

 ส่งผลให้นัดชิงอันดับ 3 ไนจีเรีย พบ แอลจีเรีย คืนวันเสาร์ที่ 30 ม.ค.นี้ และรอบชิงชนะเลิศ อียิปต์ พบ กานา คืนวันอาทิตย์ที่ 31 ม.ค.นี้ ซึ่งทั้งคู่ต่างเคยเข้ารอบชิงชนะเลิศมา 8 ครั้งเท่ากัน ทว่า "มัมมี่" เป็นแชมป์มาแล้ว 6 สมัย (1957, 1959, 1986, 1988, 2006, 2008) ซึ่งหากป้องกันแชมป์สำเร็จ จะเป็นแชมป์ 3 สมัยรวดทีมแรก ขณะที่ กานา เป็นแชมป์มาแล้ว 4 สมัย (1963, 1965, 1978, 1982) ซึ่งหากแย่งแชมป์สำเร็จ จะเป็นการครองแชมป์ทวีปครั้งแรกในรอบ 28 ปี

อินเตอร์ยิงแซงยูเว่เข้าตัดเชือก

 อินเตอร์ มิลาน ชนะ ยูเวนตุส 2-1 ที่สนามจุยเซปเป เมียซซา ของตัวเอง ในศึกชิงถ้วยโคปปา อิตาเลีย รอบก่อนรองชนะเลิศ กลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ "ม้าลาย" ขึ้นนำก่อนจาก ดิเอโก นาที 10 ทว่า "งูใหญ่" ทวงคืน 2 ประตูรวดจาก ลูซิโอ นาที 71 และ มาริโอ บาโลเตลลี นาที 90 ส่งผลให้ "เนรัซซูรี่" ได้ผ่านเข้าไปพบกับ ฟิออเรนตินา ในรอบรองชนะเลิศ ที่จะเล่นแบบ 2 นัดเหย้า-เยือน ต่อไป โดยเกมแรก "ม่วงมหากาฬ" จะได้สิทธิ์เล่นในถิ่นอาร์เตมิโอ ฟรังคี ของตัวเองก่อน ในคืนวันพุธที่ 3 ก.พ.นี้

 หลังเกม ชิโร แฟร์รารา โค้ชยูเวนตุส ได้กล่าวยอมรับว่า เขาคงโดนปลดจากตำแหน่งแน่นอน เพราะนำลูกทีมตกรอบแบ่งกลุ่ม สโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ตามหลัง อินเตอร์ จ่าฝูงกัลโช่ ซีรีส์ เอ 16 แต้ม ทั้งที่เคยขึ้นนำอันดับ 1 มาก่อน โดยเฉพาะการแพ้ 5 จาก 6 เกมล่าสุด

 แถมก่อนหน้านี้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงคณะกรรมการบริหารยูเวสตุส เพิ่งได้ผลสรุปจากการประชุมใหญ่ สำหรับโค้ชคนใหม่ที่จะมาแทน ชิโร แฟร์รารา แล้วว่า จะยังไม่แต่งตั้งใครทั้งนั้นจนกว่าจะจบฤดูกาลแข่งขันล่าสุด เพื่อรอเวลาให้ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน

 ขณะที่ แฟร์รารา ก็ไม่น่าจะอยู่ถึงสัปดาห์หน้า เนื่องจากบอร์ดบริหาร "ม้าลาย" เตรียมดึงตัว เคลาดิโอ เจนติเล อดีตเซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 1982 และครอง "สคูเด็ตโต" ร่วมกับ "ยูเว่" ถึง 5 สมัย มารักษาการแทน

 อีกทั้ง โรแบร์โต้ เบ็ตเตก้า หนึ่งในกองหน้าระดับตำนานของยูเวนตุส ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทีม ก็ได้ออกมากล่าวว่า ทั้งหมดเป็นความจริงว่าเขาจะดึง "ราฟา" เพื่อนสนิทของเขามาทำงานในถิ่นเดลเล อัลปิ ในขณะเดียวกัน "ปาปา เบนิเตซ" ก็ไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ สวนสื่อเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้