5 เม.ย.นี้ กทพ. เริ่ม ส่งข้อมูลกระทำผิดบนทางพิเศษ กรณีวิ่งไหล่ทางซ้ายให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย
2 เม.ย.64 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า การทางฯ กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงมาตรการความปลอดภัยบนทางพิเศษ ด้วยกล้องตรวจจับความเร็วและกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน) รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย
โดยระบบงานเหตุการณ์บนทางพิเศษ (TFC) พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนทางพิเศษ ในปีงบประมาณ 2563 มีมากกว่า 800 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 440 รายและเสียชีวิต จำนวน 7 ราย โดยเกือบร้อยละ 50 ของอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ อาทิการใช้ความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ฯลฯ กทพ. โดยฝ่ายควบคุมการจราจร จึงได้จัดทำแผนการดำเนินงานการป้องกันอุบัติเหตุในทางพิเศษ ประจำปีงบประมาณ 2563 -2565 ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้บนทางพิเศษโดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันและลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ทางพิเศษให้เหลือน้อยที่สุด
โดยมาตรการสำคัญที่จะขับเคลื่อนในช่วงปีงบประมาณ 2563-2565 ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ
1. การติดตั้งป้ายแจ้งเตือนความเร็ว (Your Speed Sign) ที่ทำงานควบคู่ไปกับกล้องตรวจจับความเร็วเพื่อให้ผู้ใช้ทางพิเศษใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด โดย กทพ. จะดำเนินการติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วทุกสายทางพิเศษ รวมจำนวนทั้งสิ้น 17 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่งกทพ. ได้ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 4 จุดเเละทางพิเศษเฉลิมมหานครจำนวน 5 จุด สำหรับอีก 2 เส้นทางที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ประกอบด้วย ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 4 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2564 เเละทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 4 จุดคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2565
2. การติดตั้งกล้องตรวจจับรถยนต์วิ่งไหล่ทางซ้าย (ช่องทางฉุกเฉิน)เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในไหล่ทางโดย กทพ. จะดำเนินการติดตั้ง จำนวน 32 จุด บนทางพิเศษ 4 สายทาง ซึ่ง กทพ. ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2563 จำนวน 1 เส้นทาง คือทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 10 จุด ส่วนอีก 3 เส้นทาง อยู่ในระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2564 ประกอบด้วย ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 6 จุด ทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 8 จุด และทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน 8 จุด
โดยในขั้นตอนการดำเนินงานการทางฯ จะรวบรวมข้อมูลผู้กระทำผิดพร้อมไฟล์ภาพจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยจะเริ่มส่งข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 5 เม.ย.นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง