สภาอุตสาหกรรมหารือผู้ประกอบการฝ่าวิกฤตการท่องเที่ยวเชียงใหม่

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ” ในการเที่ยวเชียงใหม่ ความพร้อม ของผู้ประกอบการในสภาอุตสาหกรรมการที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ เป็นสัญญาณในทางเชิงบวก ถ้าพูดถึงความพร้อมเราอาจจะมีนักธุรกิจ 3 กลุ่ม กลุ่มที่ มีเงินทุนและปรับตัวพร้อมที่จะเดินต่อไปได้ กลุ่มหนึ่งคือกลุ่ม 50% ที่ผ่านมาเคยรุ่งเรือง เคยมีธุรกิจที่ดี ในปัจจุบันนี้อยู่แทบจะต้องกลับมาเดินเครื่องทำงานในอุตสาหกรรมเครื่องจักรอีกครั้งนึ่งต้องมาบูรณาการเกิน30% แต่อีกกลุ่ม 50% คือเครื่องยนต์ที่พังแล้ว หากเปรียบเป็นเครื่องยนต์ มี 20 % ที่พร้อมใช้งาน โดยทั้ง3กลุ่มจากสถานการณ์ตอนนี้ มันสามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชียงใหม่แต่การเติบโตครั้งนี้มันไม่สามารถกลับมา 100%ได้ ภายในปีเดียว ทุกคนโฟกัสเหมือนกันหมดว่าเวลาลง ดิ่งเหวลงมา แต่เวลาขึ้นมันจะขึ้นแบบบันไดที่ละขั้น มันต้องอยู่ที่ความพร้อมของทั้ง2ฝั่ง ฝั่งเขาและฝั่งเรา ยังพอประเมินเป็นระยะได้แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ในเรื่องความพร้อม อย่างสมมติประเทศยักษ์ใหญ่ที่เป็นลูกค้าในอดีต ที่มาจากเจนใหม่เราบอกว่าเราพร้อมแล้ว แต่เขาบอกยังไม่เปิด ปัจจัยมีสองฝั่ง สิ่งที่ทำให้มันเป็นจริงได้ จะต้องมีความเชื่อมั่นในพื้นที่ จะเชื่อมั่นประชาชนต้องได้รับวัคซีนมากพอ”

นายพัลลภกล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมที่จะทำให้เชียงใหม่กลายเป็นแลนด์มาร์คในการท่องเที่ยว ในความคิดสภาอุตสาหกรรมโฟกัส3 เรื่อง คือ1. การจัดภาวะวิกฤตการท่องเที่ยว 2. การดูแลแก้ปัญหาการท่องเที่ยว 3. การออกแบบการท่องเที่ยว ในเรื่องที่3การออกแบบการท่องเที่ยวเราต้องเตรียมเมือง เตรียมคน เตรียมความรู้ เราต้องมาดูลูกค้าว่าเขาต้องการอะไร ต้องการเที่ยวชมแบบไหน ที่จริงแล้วการท่องเที่ยวมีProductไม่เหมือนกัน ซึ่งต่างชาติไม่ได้ดูจุดนี้ การท่องเที่ยวพยายามหาจุดขายให้มันน่าสนใจ เน้นการท่องเที่ยวในประเทศ ธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่ตอนนี้ ผมยังมองว่ารัฐบาลยังช่วยไม่เต็มที่ แต่หลายๆอย่างทำได้ดี หากจะแก้ปัญหาจะต้องแก้ไขให้ตรงจุด อยากให้มีการโฟกัสในช่วงแต่ละฤดูกาลมากกว่านี้ ในช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่เข้ามา รัฐบาลต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้

ไพศาล สุขเจริญ ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ได้กล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจตอนนี้ “โควิคส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติแถบยุโรปค่อนข้างมาก ซึ่งทางโรงแรมผ่านวิกฤตตรงนี้ได้จะต้องมีมาตรการการป้องกันโควิดเพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย และจัดโปรโมชั่นต่างๆให้ในเรื่องราคาห้องพัก หรือการคัดสรรวัตถุดิบต่างๆ หรือแม้กระทั่งการให้บริการด้านสปาเพื่อดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นใจมาตรการของโรงแรม จังหวัดเชียงใหม่เป็นตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวสามารถอยู่ในระยะยาวได้ ในเชิงการท่องเที่ยววัฒนธรรม เที่ยวธรรมชาติ ประกอบกับค่าครองชีพที่สารถจับต้องได้ หากภาครัฐเข้ามาดูแลในเรื่องเดินทาง เชียงใหม่จะสามารถยกระดับให้เป็นแลนด์มาร์คในการท่องเที่ยวได้อีกระดับหนึ่ง”

พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ข้อมูลว่า ”สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนในการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีผู้ประกอบการมากที่สุด มีมากกว่า200ราย แตกออกเป็น 6 กลุ่มอาชีพ 1. โรงแรม ที่พัก 2. ร้านอาหาร สปา นวด 3. ร้านขายของฝาก 4.ขนส่งต่างๆ 5.บริษัทนำเที่ยว 6.แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ”

นายกปชายังกล่าวต่อว่า ตั่งแต่โควิดเข้ามา วิกฤตจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีนักท่องเที่ยวที่เป็นต่างชาติเข้ามา ซึ่งรัฐบาลช่วยผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวยังไม่เต็มที่เท่าที่ควร หรือมีโครงต่างๆของรัฐบาล ช่วยเชียงใหม่ได้บางส่วน ทำให้ส่งผลกระทบการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เพราะทุกวันนี้ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวไม่มีรายได้เข้ามา แต่พวกเขายังต้องชำระหนี้สินอยู่ ซึ่งอยากให้รัฐบาลช่วยบรรเทาการเดือดร้อนของผู้ประกอบการ เช่นการพักชำระหนี้บ้างเพราะทุกวันนี้ผมคิดว่าผู้ประกอบการบางส่วนยังไม่พร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ได้