หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ก่อเหตุกระชากสร้อยสาวใหญ่ขายลอตเตอรี่ พลเมืองดีรุมจับได้ทันควัน ย่านสุขสวัสดิ์

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 เวลา 12.30 น.  ร.ต.อ.อัครเดช แก้วเกียรติยศ รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ บริเวณหน้าแห่งหนึ่งย่านบางปะกอก จึงรีบรุดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณ หน้าห้างดังย่านบางปะกอก  พบผู้ต้องหาเป็นชาย 1 ราย กำลังถูกประชาชนช่วยกันล้อมจับคุมตัวอยู่ ทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย ทรงไชย อายุ 51 ปี   จึงจัดกำลังเข้าควบคุมตัวเอาไว้ก่อน และในบริเวณที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นางสาว รุ่งทิวา  อายุ 54 ปี แม่ค้าขายล๊อตเตอร์รี่ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้ง นาย สิริวุฒิ  อายุ 49 ปี เป็นผู้ขับขี่รถรับจ้างซูบูรุ สาย 70 วิ่งประจำทางระหว่างบางประกอกถึง วัดพุทธบูชา 

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจาก นาย ทรงไชย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น นูโว อีรีแกรน์ สีส้ม คาด ดำ หมายเลขทะเบียน สยต 304 กทม. ได้ขับขี่ตีคู่กันมากับรถซูบูรุ สาย 70 สีเขียว ทะเบียน นฟข 1459 กทม.  ซึ่งมีนาย สิริวุฒิ เป็นผู้ขับขี่ จนถึงปากซอยสุขสวัสดิ์ 24 แขวงบางประกอก เขต ราษฎร์บูรณะ จังหวัด กรุงเทพมหานคร และ เมื่อชำเรืองเห็น นางสาวรุ่งทิวา สวมใส่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท พร้อมพระเครื่องเลี่ยมทองน้ำหนัก 1 สลึง จึงได้ทำการกระชากสร้อย จนขาด แต่สร้อยไม่ได้หลุดติดมือออกมาจึงเกิดการยื้อแย้งกันขึ้น ผู้ขับขี่รถซูบูรุ คันดังกล่าวที่กำลังเกิดเหตุชุลมุนกันอยู่นั้นได้หักพวงมาลัยรถ ไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์ จนเสียหลักล้มลง แล้วจึงรีบจอดรถช่วยกันวิ่งไล่จับ จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งข้ามฝั่งถนน ไปที่บริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่งย่านบางปะกอก อย่างรวดเร็ว แต่ก็ถูกพลเมืองดีช่วยกันรุมล้อมจับเอาไว้ได้ แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีต่อที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ทันที

จากการสอบถามนางสาว รุ่งทิวา แม่ค้าขายล๊อตเตอรี่ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนนั่งรถซูบูรุ สาย70 จะมาลงตรงหน้าห้างบิ๊กซี สาขาบางปะกอกเพื่อมาทำธุระ แต่เมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวก็ถูกชายคนดังกล่าวดึงกระชากสร้อยคอทองคำอย่างแรง จึงทำให้สร้อยคอขาดออกจากกันเป็น 2 ท่อน อีกส่วนหล่นลงไปในเสื้อ และอีกส่วนติดอยู่ที่ผมของตน จึงเกิดการยื้อแย่งกันขึ้นมาจนกระทั่งรถ ซูบูรุ คันที่ตนได้โดยสารมาได้เบียดกระแทกรถจักรยานยนต์ ผู้ก่อเหตุจนล้มลง และได้ช่วยกันวิ่งไล่จับคนร้ายรายนี้จนได้ ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่คอนิดหน่อย ส่วนทางด้าน ผู้ขับขี่รถซูบูรุ ชื่อนาย สิริวุฒิ กล่าวว่า ตนเองขับขี่รถมาตามเส้นทางปกติ แล้วเมื่อถึงที่เกิดเหตุรู้สึกว่าด้านหลังรถบริเวณที่ผู้โดยสารนั่งมันผิดปกติ จึงมองที่กระจกมองข้างก็เห็นคนร้ายกำลังลงมือกระชากสร้อยคอทองคำอยู่ก็เลยหักพวงมาลัยรถกระแทกให้รถจักรยานยนต์ของคนร้ายล้มลง หลังจากนั้นจึงรีบจอดรถเพื่อจะจับคนร้ายให้ได้แต่คนร้ายวิ่งหนีข้ามฝั่งตนเองจึงรีบวิ่งไล่ตามจนมีประชาชนแถวนี้มาช่วยกันล้อมจับได้ ซึ่งพลเมืองดีรวมทั้งผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างต่างก็บอกกล่าวในทำนองเดียวกันคือเห็นว่าวิ่งไล่ตามข้ามฝั่งกันมาแล้วได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจึงรีบช่วยกันจับคนร้ายดังกล่าว แล้วแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ นาย ทรงไชย  อายุ 51 ปี ประวัติของผู้ก่อเหตุรายนี้ไม่ธรรมดาเลยเคยก่อเหตุ ลักทรัพย์ ที่พื้นที่ของ สน.ธรรมศาลา และพื้นที่ ของ สน.แสมดำ มาแล้วและยังมีหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ในข้อหาลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์อีก แล้วยังมาก่อเหตุในท้องที่ของ สน.ราษฎร์บูรณะ ซ้ำอีกโดยคนร้ายรายนี้กระทำการลงมือในเวลากลางวันเเละไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่อย่างไรแล้วผู้ต้องหารายนี้ ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่ากระทำลงไปเพราะตนเองนั้นตกงาน และต้องการเงินไปใช้หนี้ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะนี้อยู่ในการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

ข่าวโดย..ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว คมชัดลึก กทม.