ฝ่ายปกครองสตูล จับกุมแรงงานไทยลักลอบเข้าเมือง ตามช่องทางธรรมชาติ

นายพันธรัฐ  จิช่อง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองสตูล พร้อมด้วยนายนิธิศ สิตะรุโณ ป้องกันอ.เมืองสตูล  รับแจ้งจากกำนันและผญบ.ม.2 ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล ว่าพบแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ชายหญิงและเด็กรวม 6 คน  หลังรับแจ้งได้สั่งให้นำตัวบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนและกักตัวบริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล ซึ่งเป็นที่กักกันแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ

จากการสอบสวนทราบว่าแรงงานทั้ง 6 คน ทำงานที่เกาะลังกาวีในประเทศมาเลเซียโดยครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูก 3 คนรวมเป็น5 คนนั้นเป็นครอบครัวเดียวกันก่อนเดินทางต้องจ่ายค่าเรือในการนำมาขึ้นฝั่ง จ.สตูลทั้ง 5 คนเป็นเงิน 22,000 บาท ขณะที่อีก 1 คนต้องจ่ายค่านำพากลับสตูลถึง 20,000 บาทเลยทีเดียว น.ส.ปาซียะห์  เจะโน  อายุ 25 ปี ชาวจ.นราธิวาสกล่าวว่า ตนกับสามีและลูกรวม 5 คนไปทำงานที่ร้านอาหารบนเกาะลังกาวีประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะที่ไปทำเจอปัญหาโควิดจึงไม่สามารถกลับบ้านได้ ลูกชาย 3 คนที่วัยกำลังเรียนก็ไม่ได้เรียนหนังสือ  เมื่อทราบว่ามีเรือสามารถนำเข้าประเทศไทยได้ก็คิดอยู่ว่าหากกลับได้จริงก็จะยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้กลับเข้าประเทศไทยจะถูกต้องหรือผิดก็ขอให้ได้กลับประเทศก่อน  ด้านนายวิวัฒน์  ดำพิลา  อายุ 15 ปี ชาวอ.เมืองสตูลกล่าวว่า ตนไปหาแม่ที่ทำงานที่เกาะลังกาวีตั้งแต่ปี63 ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กชายเป็นช่วงที่โควิดระบาดออกมาจากมาเลย์ไม่ได้ต้องรับจ้างทำงานก่อสร้างได้ค่าจ้างวันละ 50 เหรียญเมื่อได้เงินมากพอสำหรับเป็นค่าจ้างเรือจึงได้เดินทางกลับ

สาเหตุที่กลับในช่วงนี้เพราะตนต้องขาดเรียนถึง 1 ปีเต็มจึงอยากกลับเข้ามาติดต่อเรื่องการเรียนหากเรียนต่อภาคปกติไม่ได้คงต้องเรียนกศน. ส่วนเรื่องที่ต้องจ่ายเงินแพงเพื่อเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติซึ่งผิดกฎหมายนั้น ตนพูดภาษามาเลเซียไม่เป็นไม่มีใครติดต่อเรื่องการประสานงานในการเดินทางต่างๆซึ่งขั้นตอนยุ่งยากและตนเป็นเด็กไม่รู้เรื่องอะไรมากคิดแต่ว่าอยากกลับบ้านถึงยอมจ่ายแพงก็ต้องการให้กลับมาอยู่ที่บ้านมากกว่า  โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรองและกักตัวตามมาตรฐานโควิด 19 ต่อไป ในส่วนของการเข้า-ออกตามช่องทางถูกต้องวันนี้มีแรงงานจากมาเลเซีย 3 คนซึ่งแรงงานที่เข้าอย่างถูกต้องบอกว่าเสียค่าใช้จ่ายในการเดินเรื่องและเดินทางประมาณคนละ 5,000 บาทเท่านั้นแต่การเดินเรื่องค่อนข้างจะยุ่งยากและใช้เวลาในการเดินเรื่องประมาณ 1 สัปดาห์

 สุไหล  โพธิ์ดก  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สตูล