สาวใหญ่พร้อมลูกสาว ปฏิเสธเสียงแข็ง เรื่องบุกบังกะโลจับกิ๊กสามี

สาวใหญ่พร้อมลูกสาวปฏิเสธเสียงแข็งบุกบังกะโลจับกิ๊กผัวแก้ผ้ารุมทำร้ายใช้ด้ามไม้กวาดแทงทะลวงอวัยวะเพศ-อ้างเข้าไปก็พบนอนเปลือยกายอยู่ในห้องในสภาพตามที่เห็นในคลิป -ชาวบ้านรุมแฉสาวจอมโหดนำมาโพนทะนาบอกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเองว่าใช้ด้ามไม้กวาดแทงทะลวงอวัยวะเพศ

จากเรื่องราวสุดโหดร้ายป่าเถื่อนถูกเปิดเผยขึ้นโดยนายธวัช นิตสมบูรณ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นำ น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/5 หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช  ลูกสาวของนางจิราวรรณ แก้วเพชร หรือสาวเหลียด อายุ 39 ปี และนายศุภชัย นิตสมบูรณ์  ลุงของ น.ส.จิรษา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนประจำศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชว่า นางนางจิราวรรณ ถูกกลุ่มบุคคลในหมู่บ้านเดียวกันรุมทำร้ายอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน อำมหิตผิดมนุษย์ โดยจับแก้เปลือยล้อนจ้อนก่อนรุมทุบตีจนกะโหลกศรีษะแตกร้าว ร่างกายซ้ำบวมอย่างหนักแล้ว ยังใช้ไม้ไผ่ด้ามไม้กวาดแทงทะลวงเข้าไปในอวัยวะเพศจนอวัยวะภายในฉีกขาดถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราช เหตุเกิดภายในห้องพักรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบริเวณ 5 แยกนาพรุ หมู่ 3  ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราชมากนัก เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2564  ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

(22 มี.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่าหลังเรื่องราวถูกเปิดเผยทำให้สื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ทุกสำนักแห่เดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม เพื่อติดตามทำข่าวกันอย่างเนื่อง ในขณะที่ชาวบ้านได้จับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันต่าง ๆ นา ส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นการกระทำที่อำมหิตโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนเกินๆไป น.ส.จิรษา นิตสมบูรณ์ บุตรสาวของนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ที่ทางนางแข้ง และลูกสาวอ้างว่าทุกคนไม่ได้รุมทำร้ายแม่ โดยไปพบนางจิราวรรณ แก้วเพชร นอนอยู่ในสภาพแบบนั้นอยู่แล้วเป็นการแก้ตัวชัด ๆ เพราะในคลิปและภาพที่บุตรสาวของนางแข้งถ่ายมาเผยแพร่มันปรากฏและเป็นพยานหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว เขายอมรับว่าทำลายโทรศัพท์ และถอดซิมโทรศัพท์แม่ของตนไป ในคลิปตอนที่กู้ภัยและเจ้าของบังกะโลกำลังช่วยเหลือแม่เพื่อนำส่ง รพ.มหาราช นางแข้ง ยังชี้หน้าดุด่าแม่อย่างหยาบคายเสียหาย และยังกระทืบทำร้ายอีกหลายครั้ง ทั้งคลิป /ภาพถ่ายและข้อความต่าง ๆ ฝ่ายนางแข้งเป็นคนส่งมาประจานเองทั้งหมด ส่วนที่อ้างว่าน้องชายตนพาพวกพร้อมอาวุธปืน 3 กระบอกไปที่บ้านเขานั้นเป็นการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี

 

 

 

“ตนรับไม่ได้กับการกระทำที่อำมหิต โหดร้ายป่าเถื่อนและทารุณกรรมแม่ของตนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เรื่องนี้หากตนไม่ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนคงเงียบหายและคนร้ายที่ร่วมกระทำทารุณป่าเถื่อนกับแม่ของตนก็ลอยนวล จึงอยากเรียกร้องฝ่ายตำรวจได้ให้ความเป็นธรรมกับแม่และครอบครัวของตนด้วย โดยเรื่องการใช้ด้ามไม้กวาดแทงทะลงอวัยวะเพศแม่ของวตนทางนางแข็งและลูก ๆ เป็นคนนำเรื่องมาโพนทะนาบอกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเอง และยังส่งข้อความทางโซเชี่ยลในลักษณะเย้ยหยันประจานด้วย แต่เมื่อถึงถูกเผปิดเผยออกไปกลับมาแก้ตัวอ้างว่าไม่ได้รุมทำร้ายและไม่ได้ใช้ด้ามไม้กวาดแทงทะลองอวัยวะเพศ ซึ่งจะขอต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเอาเรื่องกับนางแข้งและลูก ๆ จนถึงที่สุด”

ทางด้านนางระแบบ ไมตรีแก้ว อายุ 55 ปี 11 หมู่ 6 นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ร้านขายของชำ ในหมู่บ้านกล่าวว่าในวันเกิดเหตุช่างรับเหมาก่อสร้าง สามีของนางแข้ง คือนายไพบูลย์ ไม่ทราบนามสกุล ได้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์มาจอดหน้าร้านและเข้าไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำอักดลมมาดื่ม 1 ขวด และจ่ายเงิน 20 บาท ตนจะทอนเงินให้ก็บอกว่าไม่ต้องทอน จากนั้นไม่นานนางจิราวรรณ สาวเหลียด ก็เดินมาและชวนกันเดกินไปขึ้นรถยนต์ขับออกไป ซึ่งตนไม่ทราบว่าไปบังกะโลหรือไม่ แต่เมื่อทราบภายหลังโดยฝ่ายนางแข้งอ้างว่านางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บไปรอนายไพบูลย่างนับเหมาก่อสร้างโบสถ์ในบังกะโลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะนัดกันมาขึ้นรถยนต์ที่หน้าร้านตนก่อนไปเกิดเรื่องในบังกะโล

นางยินดี จิตใจจำ หรือเหมีย พี่สาวอดีตสามีนางจิราวรรณ กล่าวว่า แม้จะมีบ้านอยู่ใกล้กัน ตนไม่รู้รายละเอียดของน้องสะใภ้มากนัก เพราะต่างคนต่างทำงานจึงไม่รู้ว่าแอบคบหากับนายไพบูลย์หรือไม่อย่างไร ส่วนน้องชายตนอดีตสามีนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บหลังเลิกรากันได้ๆไปมีภรรยาใหม่ที่ อ.ทุ่งใหญ่ แต่ก็จะกลับมาเยี่ยมลูก ๆ บ่อยครั้ง  หลังถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนตนได้ไปเยี่ยมและเฝ้านางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บเห็นสภาพแล้วน่าเอ็นดูสงสารอย่างมากและคิดว่าคงไม่รอดแน่นอน แพทย์ก็ระบุให้ญาติ ๆ ทำใจ จึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายนางแข้ง และลูก ๆ ที่ร่วมกันก่อเหตุมีสำนึกบ้าง แม้ว่านางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บจะกระทำผิดเรื่องชู้สาว แต่การรุมทำร้ายอย่างโหดร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและน่าจะเสียชีวิต มันรุนแรงมากเกดินไป กระทำผิดก็ต้องยอมรับผิดกับการกระทำบ้าง

“หลังจากถูกทำร้ายจนเข้ารักษาตัวที่ รพ.มหาราช ตนและญาติ ๆ ไปเยี่ยมหลายครั้งไม่รู้สึกตัวมาตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2564 แต่มีอยู่วันหนึ่งที่นางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวแต่พูดไม่ได้ ได้แต่กวักมือเรียกตนและญาติ ๆ เข้าไปก่อนจะชี้ที่หว่างขาและท้องและพูดออกมาได้คำเดียวว่า “รุม” ก่อนจะหมดสติไปไม่รู้สึกตัวมาจนถึงวันนี้”

ส่วนนางอำภัย จิตรบรรจง อายุ 65 ปี ญาติอีกคนของนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า หลังเลิกจากสามีนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บสู้ชีวิตทำงทานทุกอย่างเพื่อดูแลเลี้ยงลูกอย่างย่าเอ็นดูสงสาร ถือว่าเป็นคนดีที่สุดคนหนึ่งที่เพื่อนบ้านรักใคร่ชอบพอมาก ๆ เมื่อมาเกิดเรื่องแบบนี้ตนใจหายและเอ็นดูสงสารนางจิราวรรณ มาก ๆ

 

              นายไพบูลย์ ผู้รับเหมา และนางยุภา สุขทอง หรือ"แข้ง "และบุตรสาวคนเล็ก

 

ในขณะที่นางยุภา สุขทอง หรือ “สาวแข็ง” อายุ 56 ปี กล่าวว่าตนเคยเตือนนางจิราวรรณ มาครั้งหนึ่งว่าอย่ามายุ่งกับสามีตน เพราะตนผิดสังเกตที่นายไพบูลย์ สามีเบิกเงินก่อสร้างมาแต่เงินมักจะขาดหายไป คาดว่าสามีเอาไปให้นางจิราวรรณ ก็ได้ จึงแอบติดสัญญาณจีพีเอสที่รถนายไพบูลย์ สามีไว้ ในวันเกิดเหตุนายไพบูลย์ บอกว่าจะออกไปข้างนอกและขอเงิน 5,000 บาท ตนสงวัยจึงแอบขับรถ จยย.ตามไปจนพบว่าอยู่ในบังกะโล จึงโทรตามลูก ๆ ว่าพบพ่ออยู่กับผู้หญิงในห้องลูก ๆ จึงเดินทางมาที่บังกะโลก เรื่องราวก็เป็นไปตามคลิป แต่ยืนยันว่าตนและทุกคนไม่ได้รุมทำร้ายนางจิราวรรณ แต่อย่างใด เข้าไปในห้องก็พบนอนเปลือยกายบนพื้นห้องในสภาพแบบนั้นอยู่แล้ว ยอมรับว่าโมโหจึงหยิบโทรศัพท์และนาฬิกานางจิราวรรณมาปาลงพื้นที่จนแตกเสียหาย ก่อนถอดซิมเก็บมาไว้ เพื่อมาตรวจสอบว่ามีข้อมูลการติดต่อกับนายไพบูลย์ สามีตนเมื่อไหร่ หรือไม่  อย่างไรก็ตามตนและครอบครัวพร้อมที่ช่วยเหลือเยี่ยวยาด้านการเงินให้กับนางจิราวรรณ และครอบครัว

ด้าน น.ส.จิรนันท์ อินทร์นิมิต อายุ 31 ปี บุตรสาวของนางยุภา สุขทอง หรือ “สาวแข็ง” ผู้ที่ถูกระบุนำลูกสาว ลูกชายไปรุมทำร้ายนางจิราวรรณ ในบังกะโล กล่าวว่า ที่มีข่าวว่าตนพร้อมแม่และน้อง ๆ บุกไปพังประตูทำร้ายนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อไปถึงพยายามจะเคาะประตูเรียกเป็นเวลานานขอให้ออกมาคุยกันดี ๆ แต่ไม่มีเสียงตอบจึงพร้อมด้วยน้องชายพังประตูเข้าไปก็พบว่านางจิราวรรณ นอนเปลือยกายอยู่บนพื้นตามภาพที่ปรากฏในคลิป พวกตนไม่ได้ทำร้ายใด ๆ และพร้อมจะพิสูจน์ความจริง พร้อมต่อสู้คดีจนถึงที่สุด หากพวกตนไม่ผิดจะฟ้องดำเนินคดีเอาเรื่องกับผู้ที่กล่าวหาพวกตนเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทาง พ.ต.ท.มนตรี ปานอ่อน พงส.สภ.พระพรหม เจ้าของคดีได้ให้ชุดสืบสวนไปขอคลิปของบังกะโลมาเป็นหลักฐานในทางคดี พร้อมสอบสวนพยานแวดล้อมไว้เรียบร้อยแล้ว จนล่าสุดนางแข้ง และลูก    ๆ ได้เข้าพบและให้การภาคเสธว่าไปที่บังกะโลและทำลายโทรศัพท์ และนาฬิกาของนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บจริงแต่ยืนยันว่าไม่ได้รุมทำร้ายนางจิราวรรณ ตามที่เป็นข่าว ในเบื้องต้นตั้วงข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งหลังจากนางแข็งและลูก ๆ ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว เพราะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ไหลบหนี ยังไม่มีการออกหมายจับ ผู้ที่ถูกกล่าวหาเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง  ในขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากนางจิราวรรณ ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตก็จะเป็นคดีฆ่าคนตายซึ่งจะเรียกนางแข้ง และลูก ๆ มารับทราบข้อกล่าวหาฆ่าคนตายต่อไป  .       

 

  จุดนัดพบหน้าร้านค้าในหมู่บ้านก่อนผู้รับเหมาจะพาอผู้บาดเจ็บเข้าบังกะโล

 

เจ้าของร้านของชำจุดนัดพบก่อนเข่ายังกะโล

 

ญาติฝ่ายอดีตสามี  นางจิรวรรณ ผู้บาดเจ็บยืนยันนางจิราวรรณ เป็นคนดี

นางยินดี จิตใจจำ หรือเหมีย พี่สาวอดีตสามีนางจิราวรรณ   

บังกะโลที่เกิดเหตุ...

ไพฑูรย์  อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. นครศรีธรรมราช/รายงาน