แห่บริจาคช่วยอาม่าเบ้าตาช้ำ-คุณตาเวียดนามกระดูกคอร้าว โดนทำร้ายในซานฟรานฯ

ชื่อเสี่ยว เจิ้น เซี่ย หญิงอเมริกันเชื้อสายเอเชีย วัย 76 ปี ตกเป็นเหยื่อชาวเอเชียที่ถูกทำร้ายอย่างไม่มีที่มาที่ไปอีกรายในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 2 วันก่อน โดยขณะยืนพิงเสารอสัญญาณไฟจราจรข้ามถนน ในย่านมาร์เก็ต สตรีท ชายหนุ่มผิวขาวรายหนึ่งผ่านมาก็เข้าต่อยที่ตา แต่หญิงชราที่อยู่ในซานฟรานซิสโกมานาน 26 ปี  สู้กลับตามสัญชาตญาณ ใช้ไม้ที่อยู่ใกล้ๆฟาดไม่ยั้ง ทำให้ สตีเฟน เจนกินส์ คนร้ายได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด ตง เหม่ย ลูกสาว เปิดเผยความคืบหน้า ว่าแม่ของเธอสภาพจิตใจย่ำแย่ เจ็บปวด มีอาการหวาดผวา ไม่กล้าออกจากบ้าน  ส่วนตาทั้งสองข้างช้ำจนเป็นสีดำ ตาข้างขวายังมีเลือดออกเรื่อยๆ ต้องคอยซับเลือดและมองไม่ค่อยเห็น

( เดนนิส โอ ดอนเนลล์ ผู้อำนวยฝ่ายข่าวกีฬาของช่อง KPIX ทวีตคลิปหลังเกิดเหตุ)

ครอบครัวได้เปิดระดมทุนค่ารักษาพยาบาลผ่านเวบไซต์ GoFundMe โดยให้รายละเอียดไว้ด้วยว่า นางซื่อเสี่ยวเป็นเบาหวานมานานกว่า 10 ปี แม้มีประกันสุขภาพ แต่ยังไม่มีค่าใช้จ่ายอีกมากที่ไม่ได้อยู่ในประกัน เงินที่ได้จะนำไปใช้จ่ายค่ารักษาเฉพาะหน้าและบำบัดหลังจากนี้ ยอดเงินบริจาคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทะลุ 6 แสนดอลลาร์แล้วภายในสองวัน

อาม่าเป็น 1 ในเหยื่อ 2 คนที่ถูกเจนกินส์ วัย 39 ปีทำร้ายในวันเดียวกัน ก่อนหน้านั้น เจนกินส์มีเรื่องชกต่อยในย่าน ยูไนเต็ด เนชัน พลาซา จากนั้นราว 30 นาที เจอชายเชื้อสายเวียดนามวัย 83 ปีในย่านมาร์เก็ต สตรีท ก็เข้าไปทำร้าย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นเหตุการณ์วิ่งไล่จับตัว  และระหว่างหลบหนีนั้นเอง ได้เข้าไปชกหน้าหญิงชราอีกคนซึ่งก็คือนางชื่อเสี่ยว  ตำรวจกำลังสอบสวนทั้งสองเหตุการณ์ก่อนสรุปว่าเป็นการทำร้ายโดยมีแรงจูงใจจากความเกลียดชังหรือไม่ 

Ngoc Pham คุณตาเชื้อสายเวียดนามที่ถูกทำร้ายรายแรก  ศรีษะแตกและฟกช้ำจากล้มฟาดพื้น กระดูกคอร้าว ถูกทำร้ายขณะออกไปซื้อผักและของชำ ภาพ GoFundMe/Ngoc Pham Fundraiser

วีโอเอ ภาคภาษาไทย อ้างรายงานล่าสุดของ STOP AAPI Hate หรือ องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก ที่พบว่าคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าการถูกคุกคามหรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิว มากกว่า 3,795 ครั้ง ภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี 

องค์กรดังกล่าวได้บันทึกเหตุคุกคามคนเอเชียในสหรัฐฯ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มประกาศว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในอเมริกา จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ส่วนในปีนี้ แม้เวลายังผ่านไปแค่สามเดือนเศษ เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวก็เกิดขึ้นกว่า 500 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในผู้เคราะร้าย คือ นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทยวัย 84 ปีที่ถูกวัยรุ่นผลักล้มจนเสียชีวิต ขณะเดินออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้านในนครซานฟรานซิสโก