เชียงใหม่ พบสัตว์ป่าเริ่มหนีตายหลังเกิดไฟป่าต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมูลนิธิกระจกเงาจิตอาสา ยังคงระดมกำลังเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งช่วยกันทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปในไฟป่าหลังพบมีสัตว์ป่าเริ่มหนีตายซึ่งจากการลงพื้นที่ ยังพบสัตว์ป่าหลายชนิด  เช่น เต่า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งมือในการดับไฟป่า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าดังกล่าว

โดยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บินมาตักน้ำเหนือเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง ก่อนจะนำน้ำไปโปรยทิ้งยังจุดที่เกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา พื้นที่อำเภอพร้าว จำนวนหลาย 10 เที่ยว จนสามารถควบคุมไฟป่าทั้งหมดได้เช่นเดียวกับพื้นที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีการนำรถน้ำ และรถดับเพลิง ออกฉีดพ่นละอองน้ำหมอกควันที่ปกคลุม  รวมทั้งสร้างความชุ่มชื่นในอากาศ

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นขณะนี้ยังไม่คลี่คลาย หลายพื้นที่ยังเกิดไฟป่าต่อเนื่อง โดยวานนี้พบจุดความร้อน หรือ ฮอตสปอต เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 48 จุด ทั้งหมดเกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ถึง 37 จุด  และพื้นที่ป่าสงวน 9 จุด

ส่วนวันนี้ ( 18 มีนาคม) กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3  รายงานข้อมูลจุดความร้อน  ที่ตรวจพบโดยดาวเทียมระบบ VIRS  ในห้วงเวลา 01.12 น.  ถึง 02.53 น.  พบจุดความร้อนใน 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 135 จุด ลดลงจากวานนี้ที่มีจำนวน 200 จุด  จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด คือ แม่ฮ่องสอน  65 จุด รองลงมา คือ เชียงใหม่  40 จุด

ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ พีเอ็ม 2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง เริ่มขยับลดลง แต่ยังเกินมาตรฐานเล็กน้อย โดยเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ แอปพลิเคชั่น Air4Thai  รายงานค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ AQI อยู่ที่ 137  จากมาตรฐานำไม่เกิน 100 ส่วนพีเอ็ม 2.5 วัดได้ 65 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากมาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ส่วนที่สถานีตรวจวัดในตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่  AQI อยู่ที่ 139 ส่วน พีเอ็ม 2.5 วัดได้ 66 ไม่โครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ AQI อยู่ที่ 109 ส่วนพีเอ็ม 2.5 วัดได้ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตามแม้จำนวนจุดความร้อน และค่ามลพิษทางอากาศจะเริ่มลดลง แต่มลพิษหมอกควันจากไฟป่ายังคงปกคลุมท้องฟ้า เนื่องจากลมที่พักปกคลุมพื้นที่มีกำลังอ่อน อากาศจึงไม่สามารถลอยตัวได้  และยังมีหมอกควันจากพื้นที่ใกล้เคียงลอยมาสมทบ ทำให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นและหมอกควันพิษในอากาศ จนทำให้ท้องฟ้าเหนือตัวเมืองเชียงใหม่กลายเป็นสีเทาไม่สดใส

ข่าวโดย..กรรณิกา ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่