อำเภอ-ที่ดิน-อบต.สวนพริก รังวัดที่เพื่อหาแนวเขต ลำราง ทางสาธารณะ

วันที่ 17 มี.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ชาวบ้านตำบลสวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และ นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง ตัวแทนวัดป้อมรามัญ ได้เดินทางมาที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอทราบผลการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงและดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดิน หลังจาก เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มายื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ตรวจสอบพื้นที่สาธารณะรอบวัดป้อมรามัญ หมู่ 4 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีพื้นตรงไหนบ้าง จากตรงไหนถึงตรงไหน  มีความกว้าง  ความยาวเท่าไหร่  เพราะในปัจจุบันพื้นที่คลองลำรางสาธารณะ และ ทางสาธารณะ ทางกระบือ เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์อันเป็นสมบัติของแผ่นดิน ที่สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน   ได้ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จนแทบไม่เหลือพื้นที่สาธารณะอยู่เลย ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ดินที่ตั้งวัดป้อมรามัญ มีที่ดินแปลงข้างเคียงติดต่อกันทั้ง 4 ทิศตะวันออก ตะวันตก เหนือ และ ใต้ ซึ่งที่ดินติดกับที่ดินสาธารณประโยชน์อันเป็นสมบัติของแผ่นดิน ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน   ปัจจุบันสาธารณประโยชน์ดังกล่าว  อยู่ภายในอำนาจการดูแลรักษาของ  อบต.สวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา ที่ดินสาธารณประโชน์ทั้ง 4 ทิศ ที่ตั้งล้อมรอบวัดป้อมรามัญดังกล่าว มีผู้ยึดครอบครองเพื่อประโยชน์เฉพาะตนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ  ที่ดินไม่ปรากฏว่ามีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง นสล. พร้อมกับยื่นหนังสือขอให้ดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะโดยรอบวัดป้อมรามัญด้วย โดยมีนายพิชญ์พงศ์  เกิดรัตนพงศ์ ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา  เป็นผู้รับเรื่อง แล้วได้ส่งเรื่องไปยัง อบต.สวนพริก ให้ประสานกับรังวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทำการรังวัดสอบเขตเพื่อหาพื้นที่ลำราง และ ทางสาธารณะ

ล่าสุด 16 มี.ค.64  เวลา10.00 น.นายพิชญ์พงศ์  เกิดรัตนพงศ์ ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา  พร้อมด้วย นายอุเทน สินเทียม นายช่างรางวัดที่ดินพระนครศรีอยุธยา  นางสาวอนัญญา  เรืองวานิช. ปลัด อบต. สวนพริก นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความ ตัวแทนวัดป้อมรามัญ และ ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียง ได้มาร่วมกันยืนชี้แนวเขตในพื้นที่ของตน และ ที่สาธารณะประโยชน์  

นายพิชญ์พงศ์  เกิดรัตนพงศ์ ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีร่วมกันหาแนวเขต สาธารณประโยชน์ ทั้ง 4 ทิศ รอบวัดป้อมรามัญ เนื่องจากว่ามีผู้ร้องเรียน ขอให้ออกหนังสือรับรองที่ดินสาธารณะโดยรอบวัดป้อมรามัญ วันนี้จึงได้มีการดำเนินการตามคำขอ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่ของที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่น และท้องที่    เจ้าหน้าที่อำเภอ  ชาวบ้านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่  เพื่อหาแนวลำรางสาธารณะประโยชน์ พื้นที่รอบๆวัดว่ามีพื้นที่ตรงไหนบ้างเป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน มีการการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ธรณีสงฆ์  มีการกระทบกระทั่งกันมานมนาน  และ มีความพยายามรังวัดกันมาหลายรอบแล้วแต่ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้  วันนี้จึงมีการดำเนินการรังวัดเพื่อหาพื้นที่แนวลำราง และทางสาธารณะในเบื้องต้นร่วมกัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วยงานพร้อมด้วยชาวบ้านพื้นที่ข้างเคียง  ซึ่งจะมีการชี้แนวเขตไว้ก่อน   หากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมองว่าตรงไหนไม่ถูกต้อง หรือจะคัดค้านอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

ต่อมาในวันเดียวกัน  นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางเข้ามากราบนมัสการพระครูเกษมจันทวิมล (พระอาจารย์แดง) เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก พร้อมกับลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ที่มีการรังวัดสอบเขตเพื่อหาพื้นที่ลำราง และ ทางสาธารณะประโยชน์  โดยจะได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และ รักษาผลประโยชน์ลำรางและทางสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป

เกียรติยศ  ศรีสกุล  ผอ.ข่าวคมชัดลึกทั่วไทย ภาคกลาง