"ศรีสุวรรณ" บุกร้องกรรมาธิการศาสนา วุฒิสภาช่วยแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าศาสนสถานทั่วประเทศ

วันนี้ (11 มีนาคม 2564) เวลา 13.00 น.ที่อาคารวุฒิสภา เกียกกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อประธานและคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา เพื่อขอให้พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงหรือศึกษาปัญหาความเดือดร้อนของศาสนสถานของวัดต่างๆ ในพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นทั่วประเทศ ที่ถูกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้ในกิจการของพระศาสนา ในอัตราที่สูงเกินไปเทียบเท่ากับบ้านเรือนของประชาชน หรือธุรกิจร้านค้า หรือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป อันบ่งชี้ว่าได้เป็นการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรมร้ายแรงกรณี "สิระ" ทำเหรียญหลวงพ่อป้อม 

ทั้งนี้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ม.67 บัญญัติไว้ความว่า “รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น” แต่ทว่าในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 รัฐบาลกลับเพิกเฉยไม่มีมาตรการใด ๆ มาช่วยเหลือวัดวาอารามและศาสนสถานของศาลสนาอื่นๆเลยแต่อย่างใด อีกทั้งศาสนนิกชนทั้งหลายก็ห่างเหิรจากการไปทำบุญทำทานบริจาคเงินช่วยค่าน้ำค่าไฟฟ้าวัดน้อยลงมาก จนทำให้เป็นปัญหาต่อหลายๆวัดทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้

ปัจจุบันมีวัดอยู่ทั่วประเทศจำนวน 41,205 แห่ง (มหานิกาย 37,366 แห่ง ธรรมยุต 3,803  แห่ง จีนนิกาย 15 แห่ง และอนัมนิกาย 21 แห่ง : ณ 31 ก.ค.61) ซึ่งมีทั้งพระอารามหลวง และวัดราษฎร์ นอกจากนั้นยังมีมัสยิดทั่วประเทศอีกจำนวน 3,943 แห่ง (ณ 10 พ.ค.61) มีคริสต์ศาสนสถานรวม 5,789 แห่ง นอกจากนั้นยังมีศาสนสถานของพราหมณ์-ฮินดู ซิกซ์ ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบจากการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่แพงหรือสูงมากจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงใคร่ร้องเรียนมายังท่านประธานและคณะกรรมาธิการการศาสนาฯวุฒิสภา ได้พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงหรือศึกษาปัญหาความเดือดร้อนของศาสนสถานของวัดต่างๆ ในพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นทั่วประเทศ เพื่อช่วยเสนอแนะฝ่ายบริหาร หรือรัฐบาล (คณะรัฐมนตรี/กระทรววงมหาดไทย) เพื่อมีมติสั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับของศาสนสถานของวัดต่างๆ ในพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นทั่วประเทศ ในอัตราที่ต่ำกว่าอัตราปกติทั่วไป เพื่อเป็นการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.67 บัญญัติต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด