ศาลยันพิจารณาไม่ปล่อยตัว 3 แกนนำ"รุ้ง-ไมค์-ไผ่"ทำตามหลักกฎหมายทุกขั้นตอน

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงขั้นตอนประกันตัวแกนนำผู้ชุมนุม ว่า ส่วนตัวไม่ได้คุย แต่ศาลได้ส่งเจ้าหน้าที่อธิบายกับ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จนเกิดความเข้าใจ ซึ่งทั้งหมดเป็นขั้นตอนตามปกติ ในการดำเนินการกับทุกคดี

ทั้งนี้ ขั้นตอนการประกันตัว เมื่อพนักงานอัยการนำจำเลยมา เมื่อศาลประทับรับฟ้อง ก็จะออกหมายขังรอไว้ก่อน ขณะที่กรมราชทัณฑ์ ต้องทำตามศาล เว้นแต่มีการยื่นขอประกัน ส่วนใครมีอำนาจยื่นขอประกัน คือ ตัวจำเลย แต่จากการตรวจสอบเป็นบุคคลอื่นมายื่นประกัน และเมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่อง ก็จะลงระบบ แล้วรีบนำเสนอผู้พิพากษาวันนั้น เพื่อพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตหรือยกคำร้อง หากอนุญาตอาจต้องทำสัญญาหรือยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน ศาลไม่ให้ประกันตัว "รุ้ง-ไมค์-ไผ่" ส่งเข้าเรือนจำแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากโทษไม่สูง อาจทำแค่สาบานตนและปล่อยตัว หากโทษสูงเกิน 10 ปี อาจต้องทำสัญญาประกัน พร้อมทั้งมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้วยหรือไม่ก็ได้ พร้อมยกตัวอย่าง คดีบางกลอยก็ทำสัญญา แต่ไม่ต้องวางหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นขั้นตอนเมื่อมีคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เช่นเดียวกับผู้ชุมนุม 15 คน ที่ได้รับประกันตัว

นายสุริยัณห์ ย้ำว่า ศาลพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวเป็นรายสำนวนและรายบุคคล ทำให้ดุลยพินิจแตกต่างกันออกไปซึ่งหากพิจารณาไม่ปล่อย เช่น 3 คน เพราะมองว่าก่อให้เกิดประโยชน์กับคดีนี้ 1.ผู้ต้องหาหลบหนี 2.ยุ่งเหยิงกับพยาน และ 3.ก่อเหตุประการอื่นหรือไม่ ซึ่งพิจารณาเหตุตามกฎหมายประกอบพร้อมทั้งยืนยันว่า ทางทนายความได้ยื่นประกันตัวครบทั้ง 18 คน
 

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ควรได้รับการประกันตัว แต่ทำไมศาลถึงไม่ให้นั้น ซึ่งตราบใดยังไม่ตัดสินว่าผิด ศาลให้ความเป็นธรรมทุกคน ว่าไม่ได้ทำผิด ทั้งตามรัฐธรรมนูญและหลักของศาล จะไม่ปฏิบัติเหมือนคนผิด แต่เงื่อนไขปล่อยตัว รัฐธรรมนูญ ระบุกระทำได้เท่าที่เหตุจำเป็น ซึ่งศาลใช้วิธีพิจารณความอาญา ซึ่งเป็นอำนาจศาล เพราะหากปล่อยทุกกรณี อาจเกิดผลกระทบต่อสังคม

ทั้งนี้ ไม่อยากระบุว่าคดีประเภทใดให้หรือไม่ประกันตัว แต่คดีอัตราโทษสูงและมีการปล่อยตัวชั่วคราว ตัวเลขไมต่ำกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเฉพาะราย เหตุและตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับมาตราไหน โดยศาลอยากให้ประชาชนเข้าใจกระบวนการของศาล เมื่อตัดสินอย่างไรวิพากษ์ตามกรอบกฎหมาย ก็พร้อมรับฟัง