
"จตุพร" เชียร์ "สมศักดิ์" คิดดี-คิดถูก สร้างเรือนจำนักโทษการเมือง
ตู่-"จตุพร พรหมพันธุ์ " อดีตประธาน นปช. เชียร์ รมว.ยธ."สมศักดิ์ เทพสุทิน" คิดดี-คิดถูก สร้างเรือนจำขังนักโทษการเมือง เหตุไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นความเชื่อทางการเมือง
อดีตประธาน นปช. “จตุพร พรหมพันธุ์ ”สบายๆ เล่าเรื่องเบาๆ คุยถึง “คุกกับการเมือง” ชม“สมศักดิ์”คิดดี คิดถูกต้องการสร้างคุกขังนักโทษการเมืองเฉพาะ เชียร์ลงมือทำเลย ชี้ปรับปรุงเรือนจำบางส่วน ทาสีใหม่ไม่กี่วันเสร็จ พร้อมรับนักโทษการเข้าคุมขังแยกแดน เหตุไม่ใช่อาชญากร คดีทางการเมืองเป็นเรื่องความเชื่อ เน้นความรู้สึก ไม่มีความผิด ยันประเทศนี้ไม่ควรมีนักโทษการเมืองดีที่สุด
เมื่อ 9 มี.ค. 2564 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk สนับสนุนแนวความคิดของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยจะสร้างเรือนจำคุมขังนักโทษทาการเมืองโดยเฉพาะ
“ผมนับสนุนแนวความคิดของ รมว.ยุติธรรม และอยากให้เร่งลงมือทำ ซึ่งไม่ต้องลงทุนอะไรใหม่ เพราะทุกอย่างมีอยู่แล้ว อีกทั้งเสนอให้ใช้อีเอ็มในการประกันตัวก็ได้ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมควรหารือกัน”
นายจตุพร กล่าวว่า นายสมศักดิ์ บอกจะสร้างคุกขังนักโทษการเมืองเฉพาะ แต่ความรู้สึกของตนไม่ต้องการให้ประเทศนี้มีนักโทษการเมือง ถ้ามีแล้วควรถูกแยกขัง ซึ่งไม่ได้หมายถึงการดูถูกนักโทษคดีอื่นที่ถูกคุมขังอยู่ แต่คนต่อสู้ทางการเมืองไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นความเชื่อทางการเมือง ซึ่งเป็นความรู้สึก และไม่ใช่ความผิด
ในสมัยอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ได้แยกนักโทษคดีการเมืองมาคุมขังที่เรือนจำบางเขน หลังการยึดอำนาจมีการยกเลิกคุกการเมือง ถ้าไล่ยาวไปถึงสมัยเก่าๆแล้ว จะมีคุกเกาะตะรุเตาใช้สำหรับขังนักโทษการเมือง ไม่สามารถหนีออกมาได้ เพราะต้องผจญกับฉลามหรือไข้ป่า
ต่อมามีคุกลาดยาวคุมขังนักโทษการเมือง ช่วงจิตร ภูมิศักดิ์ นักคิดนักเขียนศรีบูรพา และอีกหลายคนนั้น ถูกคุมขังที่เรือนจำลาดยาว ซึ่งคือเรือนจำคลองเปรมในปัจจุบัน มีการแยกแดนให้นักโทษการเมืองเฉพาะ มีการสอนภาษา เขียนเพลง และเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา จิตร ภูมิศักดิ์ ก็เขียนที่คุกลาดยาว
ส่วนสมัยเผด็จการเข้มข้น ยังให้เกียรตินักโทษการเมือง เช่นนักการเมือง 4 เสืออีสาน แต่ถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยเอาตัวออกจากที่คุมขังจึงลงมือฆ่า แล้วอ้างเป็นโจรมาลายูเป็นผู้สังหาร ก็เกิดขึ้นมาแล้ว
“ขณะนี้ รมว.ยุติธรรม ที่เป็นกระทรวงหนึ่ง พอรับฟังได้ว่าได้คำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหา ดังนั้นระหว่างการยื่นประกันตัวนั้น ทั้งคดีคนหนุ่มสาว เมื่อเรือนจำมีอยู่แล้วก็สามารถนำผู้ต้องหาทางการเมืองออกมาอยู่เรือนจำเฉพาะได้เลย เพื่อความสะดวกทุกฝ่าย ญาติพี่น้องได้มาเยี่ยม และเรื่องนี้ รมว.ยุติธรรม สามารถกระทำได้อย่างเร่งด่วน”
ส่วนการประกันตัวนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล ตนเคยเรียกร้องมาหลายครั้งว่า ในกระบวนการยุติธรรมตั้งต้นไม่ว่าเป็น ตำรวจ ดีเอสไอ อัยการ และศาล กรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ กรมคุมครองสิทธิเสรีภาพ โดยทั้งกระบวนการทั้งหมดควรสังคายนากันในด้านสิทธิของผู้ต้องหาและนักโทษ
อย่างไรก็ตาม แนวความคิดของกระทรวงยุติธรรมกรณีเรือนจำ โดยมุ่งคืนคนดีกลับสู่สังคมนั้น ส่วนใหญ่คนที่ติดคุกวาดหวังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ต้องการกลับเข้าคุกอีก ดังนั้นเมื่อมีแนวคิดแยกนักโทษการเมือง ถือว่าถูกต้องแล้ว
นายจตุพร กล่าวว่า ตนเคยแลกเปลี่ยนกับอดีต รมว.ยุติธรรมคนก่อนถึงกระบวนการยุติธรรมบ้านเรา เพราะคนยากจนน่าเห็นใจมากที่สุด ถูกจับไม่มีเงินประกันตัว
และมีความเชื่อกันว่า สารภาพแล้วศาลลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง ถ้าทำผิดจริงก็สมควรได้รับการลดโทษ แต่ถ้าไม่ได้ทำผิด แต่ชีวิตไม่มีทางเลือกก็ต้องสารภาพ เพื่อได้ลดโทษครึ่ง จะได้กลับไปพบหน้าลูกเมีย พี่น้องได้เร็วยิ่งขึ้น
ดังนั้น กระบวนการยุติธรรม จึงมีความสำคัญ ในวันนี้เดินไม่ถึงจุดความยุติธรรมจะเป็นความยุติธรรม เพราะหลากหลายเรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่คิดกัน จึงควรสังคายนาเพราะคนทุกข์ยากไม่มีสิทธิ์ต่อสู้ แล้วถูกจับมาขังกับอาชญากร แล้วเกิดความรู้สึกคับแค้นกับสังคม ท้ายที่สุดก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาชกรรม จึงไม่ได้คืนคนดีให้สังคม แต่คืนคนดีมาก่อปัญหาอีก
นอกจากนี้ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม มีช่องว่างอยู่ ยิ่งในทางการเมืองแล้ว ตนมีความเห็นว่า ไม่ว่าจะมีความเชื่อกันอย่างไร แต่ความคิดเห็นไม่ได้เป็นอาชญากร แล้วถ้ายึดคืนคนดีให้สังคมแล้ว การปฏิบัติต่อจำเลยต้องยึดุคงความเป็นมนุษย์ด้วยเช่นกัน
“ผมขอยกย่อง รมว.ยุติธรรม ว่า คิดได้ถูกแล้ว เพราะหลังวันที่ 25 มี.ค. คงมีอีกชุดหนึ่ง อีกอย่างความคิดของ รมว.ยุติธรรมสามารถเริ่มต้นกันได้เลย และควรมีสถานที่ให้ผู้ต้องหา และนักโทษได้ถูกแสงแดด ได้ออกกำลังกายด้วย เพราะถูกขังคุกนานตัวจะเหลือง ดังนั้นท่านควรจะทำอย่างฉับพลันทันด่วน”
ในด้านการประกันตัวนั้น นายจตุพร แนะให้ผู้ต้เองหายืนได้ทุกวัน อย่ากลัวจะช้ำเพราะคดีการเมืองไม่มีช้ำ ขออย่าสิ้นหวัง เมื่อมีสิทธิยื่น ควรยื่น ส่วนตนเองนั้นยื่นตั้ง 7-8 ครั้งจึงได้รับการประกันตัว
อีกอย่าง ตนเคยพูดเสมอว่า เมื่อเข้าเรือนจำ ตนไม่ได้พกความคับแค้นเข้าไป อย่าอยู่ในคุกด้วยความแค้น และเมื่อออกมาก็ไม่ควรพกความแค้นออกมา ควรปล่อยวาง รวมทั้งการอยู่ในเรือนจำต้องปรับตัว นอนท่ามแสงสว่าง เปิดพัดลมตลอด ซึ่งจะเกิดการแพ้อากาศได้



