ชื่นชม สาวไชยาเจอสร้อยคอทองคำประกาศตามหาเจ้าของ ผ่านเฟสบุ๊กจนเจอ ปลื้มได้ทำดี

เมื่อเวลา14.00 น.วันที่ 8 มี.ค.2564 ที่สภ.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สนธยา ปานแป้น ผกก.สภ.ท่าฉาง พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประภาส ทองสมุทร รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ท่าฉาง ร่วมเป็นพยานรับคืนสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึง จากน.ส.วารุณี ใจดี อายุ 31 ปี อยู่ย้านเลขที่ 74/2 หมู่ที่ 2 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้เจอที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวคลองน้ำใส มอบคืนให้กับนายนัฐพงษ์ มณีโชติ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/5 หมู่ที่ 3 ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าของสร้อยทองคำเส้นดังกล่าว

น.ส.วารุณี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งชื่อร้าน”ครัวใต้พร้าว”และช่วงเวลาประมาณ 14.30 น.ของวันที่ 7 มี.ค.ตนเองกับแฟนได้เดินทางไปเที่ยวที่คลองน้ำใสในอำเภอคีรีรัฐนิคม ได้เจอสร้อยทองคำเส้นดังกล่าวพาดอยู่กับต้นไม้ในลักษณะตะขออ้าออกจึงได้เก็บเอาไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นทองจริงหรือทองปลอมจึงได้กลับไปถามร้านทองปรากฎว่าเป็นทองจริง  จึงได้โทรปรึกษาคนรู้จัก แนะนำให้มาแจ้งกับทาง พ.ต.อ.สนธยา ปานแป้น ผกก.สภ.ท่าฉาง ให้ช่วยประกาศตามหาเจ้าของสร้อยทองคำเส้นดังกล่าวจนเจอเจ้าของในที่สุด ส่วนตัวไม่คิดอยากได้เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์ทำสร้อยคอทองคำให้และก็ได้กลับคืนมาก่อน และเข้าใจดีว่าเวลาที่ทำของหายนั้นจะรู้สึกอย่างไรจึงได้โพสต์เฟซบุ๊กตามหาเจ้าของสร้อยเส้นดังกล่าวด้วย

นายนัฐพงษ์ เล่าว่า ตนเองได้เดินทางมาเที่ยวเพื่อจะลงเล่นน้ำกับครอบครัวและได้ถอนเสื้ออาจจะเป็นจังหวะเดียวกับเสื้อไปเกี่ยวกัตะขอสร้อยจึงทำให้สร้อยหลุดออก และเมื่อรู้ว่าสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงซึ่งเป็นสร้อยที่แม่ซื้อให้ตอนเรียนจบ ปวส หาย. ก็รู้สึกตกใจและเสียใจที่ทำสร้อยหาย และไม่คิดว่าจะได้กลับคืนมา จากนั้นมีเพื่อนได้แชร์เฟซบุ๊กมาให้ว่ามีคนพบและตามหาเจ้าของจึงได้ติดต่อกลับมา ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากที่ได้สร้อยคืน และขอชื่นชมน.ส.วารุณี เป็นอย่างมากที่พบแล้วไม่อยากได้เป็นของตัวเอง และขอขอบคุณเป็นอย่างมากถึงความเป็นคนดีไม่อยากได้ของคนอื่น

สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุราษฎร์ธานี