ข่าว

ผบ.ตร.แถลงชัดคดียาไอซ์ 1.5 ตันไม่มีตำรวจเอี่ยว ไม่ขัดแย้ง-ไม่มีคลื่นใต้น้ำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ตร.ตั้งโต๊ะแถลงชัดคดีไอซ์ 1.5 ตันระบุไม่มีตำรวจเอี่ยว ยันไม่ขัดแย้งในองค์กร-ไม่มีคลื่นใต้น้ำ ย้ำ 2 นายตำรวจใหญ่พูดคุยกันดีปกติ ระบุยังไม่หยุดการสอบสวน หากมีหลักฐานเพิ่มเติมดำเนินคดีทุกคนไม่เว้น ด้านตำรวจภาค 6 แจงการสืบสวนไม่ใช่แค่ประเด็นตำรวจถูกพาดพิง

วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รอง ผบช.ภ.6 พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.ภ.6 และ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการสืบสวนคดียาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 และมีเอกสารราชการบางส่วนหลุดออกไปเผยแพร่ทางสื่อ ขอเรียนว่าเอกสารเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวน หากเทียบแล้วถือว่าเป็นจำนวนน้อย กลายเป็นว่าข้อเท็จจริงบางส่วนที่หลุดออกไป ซึ่งเรื่องนี้เราต้องทำความจริงให้ปรากฎ

พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวอธิบายเส้นทางเครือข่ายยาเสพติดนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ 2557-2563 โดยปี 2557 ตำรวจจับกุมนายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา หรือหนูเฉิน พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ถูกออกหมายจับคดีฟอกเงินทั้งสิ้น 56 หมาย ระหว่างการดำเนินคดี นายฐปนันท์ หลบหนีประกันชั้นอุทธรณ์

ต่อมา 18 ตุลาคม 2562 ที่ด่านห้วยยะอุ จับกุมรถบรรทุก พร้อมไอซ์ 1.5 ตัน วันดังกล่าวจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายสมโชค เนียมสกุล อายุ 38 ปี เป็นคนขับ และนายสกล การุณรักษ์ อายุ 34 ปี นั่งคู่มาข้างคนขับ โดยทั้งคู่ให้การซัดทอดไปถึงผู้เกี่ยวข้องในขบวนการอีก 8 ราย โดยตำรวจได้ออกหมายจับไว้และตามจับกุมได้ 6 ราย มีผู้หลบหนี 2 ราย คือ นายเกิดชนะ มีนา และนายยงค์ วงศ์สว่างกุล

วันที่ 22 กรกฎาคม 2563 บช.ปส. และ ป.ป.ส. ขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์เจ้าของอู่ต่อรถบรรทุกที่ใช้ขนถ่ายยาเสพติดในคดีไอซ์ 1.5 ตัน แต่แยกดำเนินคดีอีกสำนวน กระทั่ง 23 ตุลาคม 2563 ตำรวจสามารถตามจับกุมนายเกิดชนะ ได้ ดำเนินการสอบปากคำ และส่งตัวให้อัยการ จุดนี้นายเกิดชนะ ให้การพาดพิงถึงพลเรือน 4 ราย และข้าราชการ 4 ราย

ทีมสืบสวนจึงนำข้อมูลทั้งหมดประกอบสำนวน นอกจากนี้ยังพบข้อเท็จจริงบางอย่าง จนขยายผลดำเนินคดีน.ส.หลิน-ชาล์ คนจัดการเงิน และนายฐปนันท์ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่หลบหนีประกันชั้นอุทธรณ์เมื่อปี 2557 จึงแยกดำเนินคดีอีกสำนวน ในข้อหาสมคบ (ม.8 วรรคแรก) และจับกุมน.ส.หลิน-ชาล์ ได้เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมอายัดเงินสดได้กว่า 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนอื่นๆ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็จะขยายผลต่อไป

 

พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวว่า สำหรับการจับกุมนายสมโชค และนายสกล พร้อมพวกอีก 6 ราย ในคดีไอซ์ 1.5 ตัน ศาลตัดสินเมื่อ 24 กันยายน 2563 ผลตัดสินมีทั้งจำคุกตลอดชีวิต จำคุก 33 ปี และยกฟ้อง 3 ราย ส่วนกรณีการจับกุมเจ้าของอู่ต่อรถ สำนวนอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาล และกรณีการจับกุมน.ส.หลิน-ชาล์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ได้ส่งสำนวนให้อัยการเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2564

ถามว่าจากการตรวจสอบบุคคลที่ถูกพาดพิง มีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวว่า คนแรกที่มีการพูดถึงเป็นพลเรือน ชื่อนายยง หรือหวัง วงศ์สว่างกุล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีไอซ์ 1.5 ตัน ได้หลบหนีไปยังติดตามจับกุมตัวไม่ได้ คนที่สองเป็นข้าราชการพ.อ.ยศพล สิทธิกรรณ ถูกออกหมายจับในคดีสมคบฯ ที่นิคมเขาบัวแก้ว จ.นครสวรรค์

หลังจากเป็นข่าวมีการไล่ล่าตัวจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้หลังจากสอบปากคำนายเกิดชนะ ลำดับต่อมาในคำให้การถึงน.ส.เฟื่องฟ้า เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในหมู่บ้านแต่ไม่มีหลักฐานสิ่งบ่งชี้ที่เพียงพอจะออกหมายจับได้ เรารู้เพียงว่าน.ส.เฟื่องฟ้าถูกกล่าวอ้างถึงแต่ยังไม่มีหลักฐาน ส่วนตำรวจทั้ง 3 คนที่ถูกกล่าวถึงในฐานข้อมูลมีการตรวจสอบเยอะมาก ในชั้นนี้ยังไม่พบหลักฐานที่พนักงานสอบสวนจะสามารถนำไปสู่การขออนุมัติในคดีสมคบต่อเลขาธิการป.ป.ส.ได้ จึงเป็นเพียงข้อมูลในการสืบสวนได้เท่านั้นเอง

ถามต่อว่าขยายความคำว่าไม่มีหลักฐานขอออกหมายจับตำรวจที่ถูกซัดทอด พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในคดีมีแค่คำกล่าวอ้างแบบอย่างนั้น ในส่วนที่ตนดำเนินคดีได้ในส่วนคดีของหลิน-ชาล์กับนายฐปนันท์ ไม่ได้ออกหมายจับในคดี 1.5 ตัน แต่ตนเอาหลักฐานจากสิ่งที่มีแล้วมาเปิดเป็นคดีใหม่ เป็นยาเสพติดคนละล็อต ฉะนั้นแล้วรายละเอียดในคดีอยู่ในชั้นของอัยการ ชี้แจงได้เพียงว่ากรณีของหลิน-ชาล์ กับนายฐปนันท์ ที่ขยายมาจากคำให้การของนายเกิดชนะ เป็นคดียาเสพติดที่ไม่ใช่ 1.5 ตัน แต่เป็นคดียาเสพติดที่มีหลักฐานอื่นบ่งชี้เลยว่าเกี่ยวข้องกัน

ถามต่อว่าประเด็นตำรวจที่ถูกพาดพิงถึงขณะนี้สืบสวนจนสิ้นข้อสงสัยแล้วใช่หรือไม่ พ.ต.อ.สราวุธ กล่าวอีกว่า ในส่วนการสืบสวนยังไม่จบอยู่แล้ว ตนยังคงต้องทำต่อ ไม่ใช่เฉพาะประเด็นที่ถูกกล่าวอ้าง นอกเหนือที่ถูกกล่าวอ้างก็ยังทำอยู่

ผบ.ตร.แถลงชัดคดียาไอซ์ 1.5 ตันไม่มีตำรวจเอี่ยว ไม่ขัดแย้ง-ไม่มีคลื่นใต้น้ำ

 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอกสารที่หลุดไปคือชิ้นเดียว ผมว่าท่านมีในมืออยู่แล้ว ลองอ่านดูที่กล่าวถึงพล.ต.ท.เขาเขียนว่าอย่างไร เขาถามว่ารูปที่พนักงานสอบสวนให้ดูท่านเคยเห็นไหม เขาก็บอกว่าไปเห็นมาที่เมียวดี แต่ไม่ได้พูดต่อว่ามาทำอะไร มาหาใคร เจอใคร อะไรอย่างไรไม่มีเลยมีแค่นี้ สมมติว่าเราจับใครมา แล้วเขาบอกว่าคนนี้มาไถเงิน แล้วไม่ให้ เราจะจับตำรวจมาสอบไหม จะต้องดูอย่างนี้ด้วย

เพราะฉะนั้นการที่จะฟังอะไร เราต้องชั่งน้ำหนักว่าวันเวลาที่พูดเมื่อไหร่ ก็ไม่ได้มีระบุ เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำไปตามข้อเท็จจริงที่พูดถึง ทางตำรวจภูธรภาค 6 ก็ได้ดำเนินการไปไม่จบแค่นี้ ของศูนย์ปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจยาเสพติดก็ทำ ทีมงานพล.ต.อ.สุชาติ ก็ทำทั้งหมด อย่างรองสุชาติมีอะไรก็จะมาเล่าให้ตนฟัง และท่านก็ทำมาตลอด ถ้ามันจะเจออะไรมันก็ต้องเจอ อะไรที่ควรทำก็ทำไปแล้ว

"แต่ถามว่าจะยุติแค่นี้ไหม ก็ไม่ใช่ เพราะยังมีงานที่ยังไม่เสร็จ การสืบสวนเส้นทางการเงินเท่าที่เห็น เอาอย่างนี้ดีกว่าการสืบสวนไปถึงสงสัยคนไหนเขาก็เอามาดู แต่ว่าไปถึงไหนถ้ามันเจอมันเจอแล้ว ณ วันนี้ เพื่อให้สังคมสบายใจเราก็ไม่ได้หยุดถ้ามีพยานหลักฐานเพิ่มเติมดำเนินคดีได้เราก็ทำไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น"

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวยืนยันไม่มีใครช่วยใครได้ ถ้าใครที่เกี่ยวเราไม่เคยละเว้น ป.ป.ส.สืบสวนกันตั้งแต่ปี 2552 ตำรวจภูธรภาค 6 มาเริ่มทำหลังจากผู้ต้องหาหลบหนีไป และเริ่มจับกุมที่ด่านเมื่อปี 2562 ก็ไล่มา ทุกคนก็ทำหน้าที่ การสืบสวนทำหลายหน่วยมาก ผมย้ำว่าทำหลายหน่วย แล้วการสอบสวนก็เป็นคณะทำงาน ก็ต้องดูด้วยว่าเราจะทำอะไรก็ต้องว่าไปตามน้ำหนักพยานหลักฐาน

ถามต่อว่าเอกสารที่หลุดออกมาถูกมองในมิติว่าอาจมีความขัดแย้งภายในองค์กรหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองเป็นเรื่องของความขัดแย้ง แต่มองว่าเราอยู่บนพื้นที่ที่ทำงานร่วมกัน แต่ใครหยิบไปใช้ประโยชน์แบบไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

"ไม่คิดว่ามีความขัดแย้ง เพราะถึงวันนี้ทุกคนที่ร่วมมีส่วนเกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนก็ยังคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ตลอด เพื่อทำให้เรื่องนี้มีความชัดเจน เพราะทุกคนก็อยากรู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร เราพยายามทำให้มันชัดเจน เรื่องงานสืบสวนก็เรียนไปแล้ว ส่วนกรณีเอกสารหลุดก็ได้ให้จเรตำรวจลงไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว ส่วนคลื่นใต้น้ำคืออะไรไม่ทราบ คงไม่มี"

ถามอีกว่าหลังจากที่มีประเด็นทางผบ.ตร.ได้เชิญพล.ต.ท.ที่ถูกพูดถึงกับพล.ต.อ.สุชาติมาพูดคุยหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตนก็เห็นทั้งสองท่านคุยกันดี ไม่เห็นมีอะไร เจอกันก็เห็นคุยกันดี

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ