ชาวเพชรบุรีแห่พากันเข้าร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือกรณีการบุกรุกป่าต้นน้ำเพชรบุรีในใจกลางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ของกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย
วันที่ 1มีนาคม 2564 สมาคมอุทยานแห่งชาติ และเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รวบรวมข้อมูลกรณีปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้มีการขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจป่า พบป่าถูกแผ่วถาง เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ จึงออกมายื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี สำหรับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 อยากให้มีการลักลอบตัดไม้ ถางป่า ทำไร่ เพราะจะทำให้เกิดความแห้งแล้ง ชุมชนบ้านบางกลอยและบ้านโป่งลึก มีหลายหน่วยงานเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิต พบเห็นวัยรุ่นในหมู่บ้านใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะเดินทาง นับเป็นชุมชนกลางป่าอนุรักษ์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอสมควร
กลุ่มคนเหล่านี้น่าจะอพยพมาใหม่เดือนม.ค.-ก.พ. โดยอ้างว่าอพยพลงมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 ในขณะที่ข้อเท็จจริงจากคลิปและภาพข่าว ส่วนใหญ่พูดไทยไม่ได้ หากอพยพลงมาเป็นเวลานานราว 25 ปีควรจะเป็นผู้ที่มีบัตรประชาชนและพูดไทยได้ จึงขอเสนอและเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาชุมชนบ้านบางกลอย ร่วมกันค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกลุ่มคนที่เข้าไปถางป่า หากพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวลักลอบเข้ามาใหม่จากประเทศเพื่อนบ้านขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเร่งด่วน และขอให้มีการดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มคนที่สนับสนุนการบุกรุกป่า การเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง ปั่นกระแสชุดความคิดสิทธิชนเผ่า และสิทธิมนุษยชน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน เพราะเนื้อหาไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ทำให้สังคมเข้าใจคาดเคลื่อน ทำให้ชาวบ้านบางกลอยใช้เป็นใบเบิกทางว่ารัฐอนุญาตให้ชาวบ้านบางกลอกลับขึ้นไปอาศัยทำกินได้ อยากให้ตัวแทนรัฐบาลและผู้ที่ลงนามแสดงความรับผิดและร่วมชดใช้ความเสียหายต่อพื้นที่ที่ถูกบุกรุก ตลอดจนเยียวยาขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ด้วย
บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดเพชรบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง