สธ.ตรวจน้ำหมักป้าเช็งไม่พบตัวยามีแต่แบคทีเรีย | คมชัดลึก

 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 25 มกราคม พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก.4 บก.ปคบ.แถลงถึงความคืบหน้ากรณีการดำเนินคดีกับ น.ส.ศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือ “ป้าเช็ง” อายุ 72 ปี เจ้าของธุรกิจ “น้ำมหาบำบัด” น้ำหมักชีวภาพซึ่งมีการโฆษณาว่าสามารถรักษาได้สารพัดโรค หลังจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำตัวอย่างน้ำหมักชีวภาพดังกล่าวส่งไปตรวจยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งผลการตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่ามีส่วนผสมของจุลินทรีย์เกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนด ว่า ในคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับ น.ส.ศรวรรณ ไปแล้วในข้อหา ผลิตหรือขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวต่อว่า ภายหลังได้รับการประสานจาก อย.ว่า ผลการตรวจสอบน้ำหมักชีวภาพหรือยามหาบำบัดนี้มีจุลินทรีย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะรับคำร้องทุกข์ของ อย.และกองประกอบโรคศิลป เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ น.ส.ศรวรรณ ใน 2 ข้อหา คือ โฆษณาเกินกว่าความเป็นจริง ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และข้อหาประกอบโรคศิลปโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คาดว่าทางตัวแทน อย.จะส่งเจ้าหน้าที่มาร้องทุกข์อย่างเป็นทางการภายใน 2-3 วันนี้ จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะเชิญตัว น.ส.ศรวรรณ มารับทราบข้อหาเพิ่มเติม โดยอย่างเร็วที่สุดคงจะดำเนินการได้ภายในวันที่ 27 มกราคมนี้

 ผบก.ปคบ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.ศรวรรณ ยืนยันว่า จะผลิตน้ำหมักชีวภาพนี้ต่อไปโดยเปลี่ยนวิธีจากการจำหน่ายเป็นแจกฟรีให้กับประชาชนที่สนใจนั้น ทางเจ้าหน้าที่คงจะปล่อยให้กระทำเช่นนั้นไม่ได้เนื่องจากผลการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ออกมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องน้ำยาที่ใช้หยอดตา หากหยอดไปเรื่อยๆ อาจทำอันตรายกับดวงตาถึงขั้นตาบอดได้ อีกทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหายในกรณีนี้ขอให้มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ บก.ปคบ.หรือแจ้งไปยังสายด่วน อย.1556 และหากมีผู้เสียหายเกินกว่า 10 ราย ก็จะพิจารณาดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะสามารถดำเนินการเรื่องการยึดทรัพย์ได้

สธ.ตรวจน้ำหมักป้าเช็งไม่พบตัวยามีแต่แบคทีเรีย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กรณีการจำหน่ายน้ำมหาบำบัดเพื่อรักษาโรค “ป้าเช็ง” จากผลตรวจกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั้งในส่วนของน้ำมหาบำบัดที่จำหน่วยราคาขวดละ 1,000 บาท และยาหยอดตาขวดละ 100 บาท พบว่า น้ำทั้ง 2 ชนิดมีสภาพเป็นกรดและตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งในกรณีของยาหยดตาจะมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียไม่ได้ และจากสภาพความเป็นกรดหากนำไปหยอดตาจะทำให้รู้สึกแสบร้อน และหากมีสภาพความกรดรุนแรงด้วยแล้วอาจส่งผลกระทบต่อเลนส์ตาได้ นอกจากนี้ทั้งน้ำมหาบำบัดและยาหยอดตาจากการตรวจยังไม่พบตัวยาใดๆ ที่ช่วยในการรักษาโรคได้ ทั้งกลุ่มยาปฏิชีวนะและเพนนิโซโลน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรยุติการดำเนินการใดๆ โดยสิ้นเชิง และหากยังมีการจำหน่ายหรือกระทำใดจะมีการดำเนินคดีซ้ำอีก

 “ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดใด ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์แพทย์ยังอยู่ระหว่างการตรวจเพาะเชื้อคาดว่าในอีก 1-2 วันจะทราบผล” รมว.สาธารณสุข กล่าว และว่า ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นรณรงค์คุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมาย

 ด้าน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาทาง อย.ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มที่เป็นยาหยอดตา หลังจากที่ซื้อมาใช้และทดลองหยอดตา ปรากฏว่าเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน จึงหยุดใช้และรีบล้างตาทันที พร้อมกันนี้จึงได้แจ้งต่อ อย.ให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามจากผลการตรวจกรมวิทยาการแพทย์เบื้องต้นที่พบเชื้อแบคทีเรีย ผู้ประกอบการจะต้องยุติการดำเนินการทันที หากยังไม่ยุติก็จะถูกดำเนินคดีอีก จึงอยากฝากเตือนไปยังป้าเช็งด้วย

 ลูกค้ายังแห่ซื้อถังไปหมักตามสูตรป้าเช็งเครียด

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 4/5 ซอยบงกช 51 ม.4 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของนางศรวรรณวันนี้ก็ยังมีลูกค้าได้มาซื้อถังน้ำไปหมักชีวภาพเอง โดยภายในบ้านมีเพียงหลานของป้าเช็ง คอยดูแล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง คอยเฝ้าดูอยู่หนึ่งนาย หลานป้าเช็งบอกว่า  วันนี้ป้าได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯไปหาหมอ อาจจะเกิดจะความเครียดที่ทางเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้มาจับกุมไป พร้อมสั่งปิดโดยไม่มีกำหนด

 เมื่อสอบถามว่า ทาง อย.ได้ตรวจพบมีเชื้อเบคทีเรียอยู่ในน้ำหยดตาทราบข่าวหรือไม่ ทางหลานป้าเช็งตอบว่ารู้แล้ว มีผู้แจ้งมาบอกแล้วตั้งแต่ตอนเที่ยงวัน จึงอาจจะทำให้ป้าเช็งเครียดมากขึ้น จนทำให้ต้องมีการขึ้นป้ายไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

 บรรยากาศหน้าบ้านยังคึกคักเมื่อมีลูกค้าเดินทางมาจากต่างจังหวัดได้มาซื้อถังหมักพร้อมตัวยาที่มีลูกค้านำใส่ท้ายรถกระบะมาตั้งขาย และขายดีตลอดทั้งวัน อย่างเช่น มะขามป้อมโลละ 20 บาท ลูกสมอโลละ 60 บาท บอระเพ็ดโลละ 15 บาท ลำไยโลละ 25 บาท ลูกยอโลละ 20 บาท ซึ่งมีลูกค้ามาซื้อยกถุงไปคนละหลายสิบโลทำให้พ่อค้ามีรายได้เหมือนเดิม