ศปอส.ตร.รวบโจรสามเหลี่ยม สลับโยกเงินจ่ายแทน | คมชัดลึก

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุดปฏิบัติการเทคนิคและสืบสวนที่ 2 , พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ พ.ต.ท.ชิษณุพงศ์ ไหวดี รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ตำรวจ กก.สส.4 บก.สส.บช.น.

นำโดย พ.ต.ต.อภิสิทธิ์ ธัยยามาตร์ สว.กก.สส.4 , ร.ต.อ.สิทธิกร โกวฤทธิ์ รอง สว.กก.สส.4 , ด.ต.ชาญฤทธิ์ นิลทการk ด.ต.ชัยณรงค์ สุวรรณชาติ และ ส.ต.อ.สรายุทธ ยศสกุล  ผบ.หมู่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายเฉลิมพล หันจรัส อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาในพื้นที่ หมู่ 5 ต.บึงบูรพ์ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่จ.71/2564 ลงวันที่ 18 ก.พ.64 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถตลาดมะลิ ต.ท่าใหม่ อ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายจำนวน 2 ราย เข้าแจ้งความที่สน.ปทุมวัน ว่าประมาณวันที่ 27 ธ.ค.63 มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ“Settapol Mongkol” ประกาศขายกระเป๋า “Prada” พร้อมวิดีโอคอลพูดคุยแสดงว่ามีสินค้าจริง เมื่อลูกค้าโอนเงินให้แล้วไม่ส่งสินค้าให้ จึงรวมตัวกันมาแจ้งความ นำมาสู่การสืบสวนติดตามคนร้าย

โดยความร่วมมือ ศูนย์ปราบปรามทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.)​ แกะรอยตามหลักฐานเป็นเวลาหลายเดือน จนทราบว่า ผู้กระทำความผิด คือนายเฉลิมพล หันจรัส จึงรวบรวมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายจับ และติดตามจับกุมได้

นายเฉลิมพล ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับบุคคล 2 เป็นเพื่อนกัน คือนายอัฑฒคุณ หรือ กอล์ฟ สุวรรณาอัฑฒ์ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง อีกคนคือนายธนพล หรือ ฟาร์ม อิ่มอรชร โดยนายเฉลิมพล และเพื่อนได้ร่วมกันปลอมเฟสบุ๊คเป็นบุคคลอื่นจำนวนหลายชื่อ และใช้ร่วมกัน เช่น “Settapol Mongkol” , “Boyboys Porter” , “Maxx Strixx” , “William Hornman”, “Pee Thanin” , “Jimmy Stark” และอีกหลายชื่อเพื่อขายสินค้า และตอบลูกค้า

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2563 นายอัฑฒคุณ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ได้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Settapol Mongkol” โพสต์ขายกระเป๋า Prada จนมีผู้สนใจสินค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายรายแรก ติดต่อเข้ามาทางแชทข้อความเพื่อขอซื้อสินค้า โดยนายอัฑฒคุณ จะทำหน้าที่ติดต่อพูดคุยขายกระเป๋าผ่านวีดีโอคอลให้ดูสินค้าจนผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีสินค้าจริง

หลังจากนั้น นายอัฑฒคุณ ได้ให้นายเฉลิมพล ซึ่งใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Maxx Strixx”  ติดต่อขอซื้ออะไหล่รถจากผู้ประกาศขายสินค้าทางเฟสบุ๊ค ในราคา 30,000 บาทแล้ว นายอัฑฒคุณ จะหลอกให้ผู้เสียหายที่ขอซื้อกระเป๋า โอนเงิน  30,000 บาท ไปยังบัญชีของผู้ประกาศขายอะไหล่รถ เพื่อให้ผู้ประกาศขายอะไหล่รถหลงเชื่อว่า ได้ชำระค่าสินค้าแล้ว จากนั้น นายเฉลิมพล จะติดต่อพนักงานรับส่งของบริษัทเอกชน (ลาล่ามูฟ)​ไปรับอะไหล่จากผู้ขายมาเพื่อนำไปขายต่อ โดยผู้เสียหายแรกที่ขอซื้อกระเป๋าจะไม่ได้กระเป๋าแต่อย่างใด

ต่อมา ผู้เสียหายรายที่ 2 ได้ติดต่อขอซื้อกระเป๋าทางเฟสบุ๊คชื่อ “Settapol Mongkol” อีกครั้ง นายอัฑฒคุณใช้วิธีการเดิมจนผู้เสียหายรายที่ 2 หลงเชื่อ ครั้งนี้ นายอัฑฒคุณ ให้นายเฉลิมพลโทรคุยกับผู้เสียหายรายที่ 2 เพื่อติดต่อซื้อขายกระเป๋าทางโทรศัพท์  ขณะเดียวกันนายเฉลิมพลได้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Maxx Strixx” ติดต่อขอซื้อไอโฟน 12 โปรแมค จากผู้ประกาศขายโทรศัพท์ทางเฟสบุ๊คอีกราย เมื่อตกลงซื้อโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว นายเฉลิมพลจะติดต่อให้ผู้เสียหายรายที่ 2 โอนเงินค่ากระเป๋าไปยังบัญชีของผู้ประกาศขายสินค้าอะไหล่รถครั้งแรกอีกครั้ง จำนวน 30,000 บาท

นายเฉลิมพล ได้ออกอุบายโทรไปยังผู้ประกาศขายสินค้าอะไหล่รถว่า ได้โอนเงินผิดบัญชีไป 30,000 บาท ให้ผู้ประกาศขายสินค้าอะไหล่รถโอนเงินคืนให้ แต่นายเฉลิมพลกลับหลอกให้โอนไปยังบัญชีของผู้ประกาศขายโทรศัพท์ เพื่อหลอกว่าได้ชำระค่าโทรศัพท์แล้ว

จากนั้น นายเฉลิมพล ได้ติดต่อพนักงานรับส่งของ(ลาล่ามูฟ)​ ไปรับโทรศัพท์จากผู้ขายมาให้ที่บริเวณหน้าห้างแห่งหนึ่ง (เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ)​ เมื่อได้รับโทรศัพท์แล้ว นายเฉลิมพลได้นำโทรศัพท์ไปแอบให้กับนายธนพล หรือ ฟาร์ม อิ่มอรชร ในห้องน้ำภายในห้าง เพื่อให้นำโทรศัพท์ไปขายในห้าง และนำเงินมาแบ่งกัน ทำให้ผู้เสียหายรายที่ 2 ถูกหลอกอีกราย 

นายเฉลิมพล ให้การด้วยว่า ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อใช้หนี้จำนวน 4 แสนบาทให้กับนายอัฑฒคุณ หรือ กอล์ฟ  เนื่องจากได้รู้จักกันขณะนายเฉลิมพลไปเที่ยวที่ฮ่องกง และเคยร่วมกันทำธุรกิจที่จ.เชียงใหม่ และนายเฉลิมพล เคยถูกตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ จับกุมกรณีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง จนถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลาหลายปี แต่นายอัฑฒคุณ หรือ กอล์ฟ ได้ช่วยประกันตัวนายเฉลิมพลไว้ จึงได้ร่วมกันกระทำผิดเพื่อชดใช้หนี้ ปัจจุบันนายเฉลิมพล ประกอบอาชีพขายของตามตลาดนัด ส่วนการหลอกขายสินค้าทางเฟสบุ๊ค จะให้ผู้เสียหายโอนเงินให้แล้วไม่ส่งสินค้าให้ มีผู้เสียหายหลายราย

สำหรับประวัติ นายเฉลิมพล ยังมีคดีฉ้อโกงอยู่อีกหลายพื้นที่ มูลค่าความเสียหายรวมหลายแสนบาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมทั้งขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ส่วนนายอัฑฒคุณ หรือ กอล์ฟ พบว่ามีหมายจับติดตัวอยู่ 16 คดี  ซึ่งนายอัฑฒคุณ ใช้เฟสบุ๊คส่วนตัวชื่อ “G's Fortyfour” หลบหนีอยู่ในฮ่องกง และยังกระทำการใช้เฟสบุ๊คปลอมหลอกขายสินค้าอย่างต่อเนื่อง

ทางตำรวจ ขอแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อผู้ใช้เฟสบุ๊กที่ไม่แสดงตัวตนอย่างแท้จริง ให้เลือกผู้จำหน่ายสินค้าที่ไว้ใจได้ ตรวจสอบข้อมูลก่อนชำระค่าสินค้าโดยละเอียด เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป หากมีผู้เสียหายที่ถูกเฟสบุ๊กหรือกลุ่มผู้ต้องหาข้างต้น หลอกลวงให้นำหลักฐานติดต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป