
กลับไปคิดใหม่ "ทนายเดชา" ขอฟาด "ตำรวจแต่งซ้อน" ไม่มีสิทธิจะขออยู่ตรงกลาง
กลับไปคิดดูใหม่ "ทนายเดชา" ขอฟาดปมดราม่า "ตำรวจแต่งงานซ้อน" ซัดอย่าพูดให้ดูเท่ "ขออยู่ตรงกลางไม่เลือกใคร" ชี้หมดสิทธิแล้วมีทางเดียวต้องเลือกเมียที่จดทะเบียนสมรสเท่านั้น
หลังจากเจ้าบ่าวแต่งงานซ้อนซึ่งเป็นตำรวจ สังกัด สภ.เมืองชัยนาท ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับผิดกรณีที่ถูกภรรยาไลฟ์สดบุกงานแต่งพร้อมกับโชว์ทะเบียนสมรส จนเรื่องบานปลายจนเกิดความวุ่นวายและเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศนั้นว่า
อ่านข่าว ตั้งกก.สอบวินัย ตร.แต่งงานซ้อน สื่อเกาะติดพบวันนี้ลาราชการ พ่อเสียใจลูกชายทำไม่ถูกต้อง
"เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นคนผิดเอง ขอยืดอกรับผิดอย่างลูกผู้ชาย และขอร้องว่าอย่าไปโทษหรือด่าฝ่ายเจ้าสาวเพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าอยากด่าให้มาด่าที่ตนเพียงคนเดียว ทุกวันนี้ทุกคนก็เครียดและอับอายมากพอแล้ว ส่วนจะกลับไปคืนดีหรือปรับความเข้าใจกับภรรยาหรือไม่ ขอตอบว่าเหตุการณ์บานปลายมาขนาดนี้ขออยู่เป็นคนกลาง อยู่ตรงกลาง เลือกที่จะไม่อยู่กับใครทั้งสิ้น ส่วนลูกสาวทั้ง 2 ยืนยันว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดีตามหน้าที่ของพ่ออย่างสุดกำลัง"
ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ทนายคลายทุกข์" โดยระบุว่า ตำรวจตามข่าวที่แต่งงานกับเมียน้อยไม่มีสิทธิที่จะขออยู่ตรงกลาง และไม่มีสิทธิเลือกที่จะอยู่กับใคร ตามกฎหมายต้องอยู่กับเมียจดทะเบียนเท่านั้น และที่สำคัญมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องอุปการะเลี้ยงดูเมียที่จดทะเบียนและบุตรที่เกิดจากตัวเอง
"กรณีตำรวจมีเมียจดทะเบียนอยู่แล้ว แล้วไปแต่งงานกับหญิงอื่น หรือที่เรียกว่าเมียน้อย เป็นข่าวคราวใหญ่โต สุดท้ายนายตำรวจคนนี้บอกว่า ขออยู่ตรงกลาง ไม่ขออยู่กับใคร ถามว่าทำได้หรือ ผมตอบสั้นๆเลยว่าทำไม่ได้ ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้วก็ไม่มีสิทธิเลือกแล้วครับ ต้องอยู่กับเมียที่จดทะเบียนสมรส จะไปเลือกไม่อยู่กับเมียก็ไม่ได้ จะฟ้องหย่าก็ไม่ได้ เพราะเมียที่จดทะเบียนสมรสนั้นไม่ได้ทำผิดอะไรที่เป็นเหตุหย่า
เพราะฉะนั้นอย่าพูดว่าอยู่ตรงกลาง อยู่ไม่ได้ครับ จะพูดว่าขอเลือกที่จะไม่อยู่กับใครทั้งนั้น ก็ไม่ได้ เพราะในเมื่อคุณจดทะเบียนสมรสแล้ว และคุณเป็นตำรวจด้วย คุณต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการเคารพกฎหมาย ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำผิดศีลธรรม การนอกใจเมียผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม ดังนั้นต้องเลือกอยู่กับเมียที่จดทะเบียนสมรส และมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูเมียและลูกอีก 2 คน"