ข่าว

ปลูกฝังอุดมการณ์สู่คนดีที่"รักชาติ"

ปลูกฝังอุดมการณ์สู่คนดีที่"รักชาติ"

25 ม.ค. 2553

การแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากงานยุทธการ หรือปฏิบัติการทางทหารแล้ว งานปฏิบัติการจิตวิทยาหรืองานกิจการพลเรือนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในอันที่จะเอาชนะจิตใจของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยั่งยืนที่สุด

กองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (พตท.) นำโดย พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.ตท. จึงจัดทำโครงการปฏิบัติการจิตวิทยาต่อโรงเรียนตาดีกา เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อเด็กเยาวชน ตลอดจนโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติด้วย

 พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 (ผบ.ฉก.ทพ.41) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.ยะลา คือ รามัน ธารโต เบตง และบันนังสตา ขยายความว่า โครงการนี้ดำเนินการมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติรักแผ่นดินเกิด

 กิจกรรมตามโครงการจะเน้นกลุ่มเด็กเล็กชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนตาดีกา หรือโรงเรียนสอนศาสนาต่างๆ โดยจะมีการประกวดร้องเพลงอะนาชีด (เพลงศาสนาอิสลาม) เพลงชาติ เพลงสดุดีมหาราชา รวมทั้งการประกวดอ่าน และเขียนภาษาไทยด้วย

 ในการประกวดจะมีการประกวดตั้งแต่ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด ครบทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนอกจากจะมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังอุดมการณ์รักชาติ พระมหากษัตริย์ และฝึกการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องยิ่งขึ้นด้วย

 ผบ.ฉก.ทพ.41 กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการว่า เป็นการต่อยอดผลการทำงานชุมชนสัมพันธ์ของทหารที่ประสบผลสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2548 โดยหลังจากเข้าไปทำงานมวลชนทำให้ชาวบ้านให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่มากขึ้น และทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบทำงานยากขึ้นด้วย

 "พื้นที่ของเรา เช่น บันนังสตา เดิมเคยมีเหตุรุนแรงสูง แต่พอเราได้เข้ามาพบปะกับชาวบ้านก็ได้รับความร่วมมือมากขึ้น กลุ่มโจรที่เคยเดินสบายในหมู่บ้านก็ต้องหนีขึ้นไปบนเขา พอก่อเหตุก็ต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะหนีได้ทัน" พ.อ.คมกฤช กล่าว

 ด้าน อับดุลเลาะห์ หะยีปูเตะ นักศึกษาปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผู้ฝึกเด็กสถาบันปอเนาะฆูนุงอามัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้ร้องเพลงชาติ เพลงเกี่ยวกับในหลวง และเพลงศาสนา เล่าว่า เริ่มมาสอนเด็กๆ เมื่อปลายปี 2552

 โดยใช้เวลาว่างวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. สอนเด็กให้ร้องเพลงที่เกี่ยวกับความรักชาติ และพระมหากษัตริย์ เช่น เพลงชาติ เพลงสดุดีมหาราชา เพลงพ่อของแผ่นดิน รวมทั้งเพลงอะนาชีด (เพลงศาสนาอิสลาม) เพื่อสอนให้เด็กเป็นคนดี รักพ่อแม่ ครูอาจารย์

 จุดประสงค์ในการสอนของอับดุลเลาห์ะ คือ 1.อยากปลูกฝังให้เด็กเป็นคนดี มีความรักชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2.อยากใช้ความรู้ที่เรียนมาทำประโยชน์ให้แก่สังคม และประเทศชาติ

 เด็กที่มาเรียนมีประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่อายุราวๆ 10-12 ปี สาเหตุที่เลือกสอนเด็กกลุ่มนี้ อับดุลเลาะห์ให้เหตุผลว่า เด็กกลุ่มนี้กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เสี่ยงต่อการชักจูงได้ง่าย จึงต้องปลูกฝังให้รักชาติ เพื่อไม่ให้หลงไปเดินทางผิด

 นอกจากนี้ ในการสอนของเขายังมีการสอนเล่นเกม รวมทั้งกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ เพื่อคลายเครียดให้แก่เด็กๆ ด้วย แต่ก็พยายามสอดแทรกการปลูกฝังการเป็นคนดี ตลอดจนอุดมการณ์รักชาติรักแผ่นดินเข้าไปด้วย

 "เด็กๆ ชอบมากครับ เพราะปกติเวลาเรียน ตารางเรียนจะแน่นมาก จนแทบไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ แบบนี้ ส่วนรางวัลที่ได้แม้จะได้เพียงรางวัลชมเชย ผมก็ภูมิใจแล้วครับ ที่ได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินเกิด" อับดุลเลาะห์กล่าวอย่างภูมิใจ

 อับดุลเลาะห์บอกว่า ตั้งใจจะสอนเด็กไปเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริงอาจทำไม่ได้เต็มที่ หรืออาจไม่ได้ทำเลย เพราะเขาตั้งใจว่าจะสอบบรรจุเป็นครู แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะสอบได้หรือไม่

 "ถ้าสอบเป็นครูได้ ผมตั้งใจว่าจะกลับไปเป็นครูสอนที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม ถ้าได้ทำอะไรเพื่อประเทศชาติ และได้ทำที่บ้านเกิดของตัวเองก่อนด้วย ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีมาก" อับดุลเลาะห์ตั้งปณิธานไว้เช่นนั้น
 ส่วนเราคงต้องเอาใจช่วยให้นักศึกษาผู้มีอุดมการณ์อันสูงส่งอย่างอับดุลเลาะห์ประสบความสำเร็จดังใจหวังต่อไป


ทีมข่าวความมั่นคง
ภาพ...กิตตินันท์ รอดสุพรรณ