รวบตัวหนุ่มปลอมไลน์ดาบตำรวจ เอาไปเรียกรับเงินบริจาคไถ่ชีวิตโคกระบือ

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา11.00 น. ดาบตำรวจประชา แข็งแรงดี ผบ.หมู่งานงานป้องกันปราบปรามยาเสพติด กองกำกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี  เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมตัว นายวันชาลี หรือบ็อก  เทียมทัศน์  อายุ33ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ตำบลปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาเสพยาเพสติดประเภท1 หรือยาบ้า โดยผิดกฎหมาย

สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวน ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่กูภัย แห่ง จ.ชลบุรี  ที่รู้จักกับดาบตำรวจประชา มีคนแอบอ้างว่าเป็นดาบตำรวจประชาด้วยการรูปภาพของดาบตำรวจประชา เป็นโปฟราย ในไลน์ของตัวเอง ขอรับบริจาคเงิน เพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือ จำนวน2 ถัง เป็นเงินจำนวน55,000 บาท  แล้วจะนำไปถวายวัดแห่งหนึ่งใน จ.น่าน ในวันที่9 กุมภาพันธ์  โดยระบุบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อ นายวันชาลี เทียมทัศน์ 

หลังจากนั้นตำรวจได้ทำการตรวจสอบทราบว่า นายวันชาลี หรือบ็อก  เทียมทัศน์   ได้มีภรรยา อายุ54 ปี อยู่บ้านนาสมบูรณ์ ตำบลโคกสะอาด อ.เมืองอุดรธานี  จึงนำกำลังไปตรวจสอบ จนพบตัว จึงนำตัวมาที่โรงพัก ทำการสอบปากและทำการตรวจปัสสาวะ ปรากกว่าเป็นสีม่วง ยอมรับพึ่งเสพยาบ้าไป

จากการสอบสวน นายวันชาลี หรือบ็อก  เทียมทัศน์   ให้การสารภาพว่า ตนเคยแจ้งเบาะแสยาเสพติด ให้ตำรวจ แล้วได้รู้จักกับ ดาบตำรวจประชา แข็งแรงดี จึงได้เอารูปของ ดาบตำรวจประชา แข็งแรงดี ในเฟซบุ๊ก มาสร้างโปฟราย ในไลน์ของตน ชื่อไลน์ว่า ธานีสายฟ้าร่มโพทอง เพื่ออ้างคนอื่นว่า ตนเองเป็นตำรวจ เพื่อต้องการหาเงิน ในด้วยเปิดรับบริจาคเงิน ไถ่ชีวิตโคกระบือ ส่งไปในกลุ่มไลน์มูลนิธิ กลุ่มไลน์กู้ชีพกู้ภัย และกลุ่มวิทยุวีอา พร้อมกับส่งรูปของตำรวจ เวลาออกไปปฏิบัติหน้า เพ่อสร้างความเชื่อว่า ตนเองเป็นตำรวจจจริง ไม่คิดว่าจะมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

ดาบตำรวจประชา แข็งแรงดี กล่าวว่า  เมื่อปีที่แล้ว นายวันชาลี หรือบ็อก  เทียมทัศน์  เคยโทรศัพท์มาโรงพัก เพื่อต้องการแจ้งเบาะแส ยาเพสติด จึงได้เรื่องให้ตำรวจปราบปรามเสพติดกองกำกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี  แล้วพาตำรวจไปชี้เป้าหมาย ทำให้สามารถจับกุมผุ้ครองครองยาเสพติดได้ ทำให้นายวันชาลี หรือบ็อก  ฯ ได้รู้กับตน และรู้จักเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย จึงได้นำรูปของตนในเฟซบุ๊กไปสร้างโปฟราย ในไลนน์ อ้างตัวว่า เป็นตำรวจ เพื่อ ทำการเปิดรับเงินบริจาคไถ่ชีวิตโคกระบือ ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลในมือถือ พบว่ามีคนโอนเงินเข้ามาให้หลายคน มียอดเงินจำนวน1หมื่นกว่าบาท เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาเสพยาบ้า เอาไว้ก่อน แล้วนำตัวส่ง ร.ต.อ.ประวิทย์  อิ่มใจ รองสว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง แล้วให้พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาเพิ่ม ในฐานความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ แจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต่อไป   

นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค  จ.อุดรธานี คมชัดลึก