ชมกันเต็มๆ เดโมแครตเปิดฉากถอดถอนทรัมป์รอบสองด้วยคลิปม็อบบุกยึดอาคารรัฐสภา

วุฒิสภาสหรัฐ เริ่มกระบวนการไต่สวนญัตติขอถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น จากข้อกล่าวหาที่ว่า ทรัมป์ยุยงผู้สนับสนุนกว่า 800  คน บุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ในระหว่างที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่โจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะ โดยส.ส.เดโมแครต ที่ทำหน้าที่เป็น impeachment manager หรือพนักงานอัยการของสภาที่กล่าวหาฟ้องร้อง นำเสนอหลักฐานเป็นคลิปความยาว 13 นาทีรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น เริ่มต้นด้วยคำประกาศของทรัมป์ถึงกองเชียร์ใกล้กับทำเนียบขาว เมื่อ 6 ม.ค.ว่า เราจะหยุดการขโมยผลเลือกตั้ง เราจะเดินไป ผมจะไปที่นั่นกับพวกท่าน เราจะมุ่งไปที่แคปปิตอล (อาคารรัฐสภา)  เราจะต้องสู้เต็มที่ 

 

 

จากนั้น ก็เป็นภาพตำรวจสภาเอาม็อบไม่อยู่เพราะมีกำลังน้อยกว่า สมาชิกสภาคองเกรสหนีม็อบจ้าละหวั่น  ตำรวจคนหนึ่งร้องเสียงดังขณะถูกทำร้าย และการตายของแอชลี แบบบิตต์ ทหารผ่านศึกหญิงผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่ถูกยิงขณะพยายามปีนประตู เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 5 คนจากเหตุการณ์ในวันนั้น ก่อนตัดไปที่ภาพทรัมป์ พูดในวันเดียวกัน ขอให้กองเชียร์กลับบ้าน เรารักพวกท่าน ปิดท้ายที่ภาพข้อความที่ทรัมป์โพสต์บนทวิตเตอร์ช่วงบ่ายวันเดียวกันแต่ถูกลบไปแล้ว ว่า “เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อชัยชนะเลือกตั้งถล่มทลายและศักดิ์สิทธิ์ ถูกยึดไปจากผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างง่ายดายและชั่วร้าย ..กลับบ้านด้วยความรักและความสงบเถิด” 

 

 

เจมี รัสคิน ส.ส.ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานอัยการของสภา ชี้ไปบนจอแล้วกล่าวว่า นี่คืออาชญากรรมและการกระทำผิดทางคุณธรรมอื่นๆ  หากยังไม่ใช่ความผิดที่สมควรถอดถอนได้ ก็คงไม่มีการกระทำใดที่จะเอาผิดได้

 

ทั้งนี้ สมาชิกวุฒิสภาหลายคนที่นั่งเป็นคณะลูกขุนในการไต่สวนขอถอดถอนทรัมป์ ต่างประสบและเห็นเหตุรุนแรงด้วยตัวเอง ขณะผู้สื่อข่าวสายสภาฯ ลงความเห็นว่าคลิปเหตุการณ์ที่เปิดให้ชม น่าจะมีผลไม่มากก็น้อยต่อคณะไต่สวน  เอมิลี โคชแรน ผู้สื่อข่าวสายสภาของนิวยอร์ก ไทมส์ บรรยายว่า “พอคลิปจบ สภาตกอยู่ในความเงียบ เมื่อราสคินเริ่มพูดต่อ ก็เหมือนว่าทั้งห้องได้หายใจ”  

 

 

บรูซ คาสเตอร์ ทนายของทรัมป์ ยอมรับว่า คลิปนี้ทำให้ทีมกฎหมายต้องเปลี่ยนยุทธวิธีใหม่ แต่เรามีข้อโต้แย้งทุกเรื่องที่อีกฝ่ายหยิบยกขึ้นมาได้ ซึ่งจะได้ฟังกันต่อไป 

โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เจอข้อกล่าวหาถอดถอน หลังพ้นตำแหน่ง และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนสองรอบ ทนายของเขาพยายามแย้งว่า ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดี และวุฒิสภาไม่มีสถานะทางกฎหมายที่จะเปิดไต่สวนญัตติถอดถอนบนข้อหาว่าทรัมป์ปลุกม็อบขณะอยู่ในตำแหน่ง  แต่วุฒิสภาลงมติ 56 ต่อ 44  ว่าการไต่สวนไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี ทนายของทรัมป์เตรียมโต้ว่าทรัมป์ใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็น ด้วยการตั้งคำถามความถูกต้องชอบธรรมของผลเลือกตั้ง  ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการกระทำของม็อบบุกสภา 

วีโอเอ ภาคภาษาไทย รายงานว่า กระบวนการไต่สวนจะใช้เวลา  4 วัน โดยสมาชิกวุฒิสภา 100 คน ทั้งจากพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกัน มีเสียง ส.ว.เท่ากันที่ 50 เสียง และมีรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จากเดโมเครต เป็นอีกเสียงตัดสิน 

การพิจารณาให้อดีตปธน.ทรัมป์ มีความผิด ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากส.ว.ฝั่งเดโมแครตทั้งหมด 50 เสียง บวกกับเสียงสนับสนุนอีก 17 คนจากฝ่ายรีพับลิกัน จึงเป็นที่คาดหมายว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ถูกพิจารณาว่ามีความผิดโดยวุฒิสภา แต่หากถูกตัดสินว่ามีความผิด ทรัมป์อาจไม่สามารถรับตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐอีก