"ณัฏฐพล" ไม่หวั่นไหวอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังมีกระแสข่าว พปชร. ไม่โหวตให้

9 ก.พ.64 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น อาจจะนำไปสู่การขยับเก้าอี้รัฐมนตรี ว่า ต้องรอดูการอภิปราย เป็นการตอบคำถามในรัฐสภา และตนไม่มีอะไรจะต้องคุยกับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งระหว่างการให้สัมภาษณ์ พลเอก ประวิตร ได้เดินลงมาจากตึกบัญชาการ และยืนดูนายณัฏฐพล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทำให้ นายณัฏฐพล หันไปยิ้มทักทาย และกล่าวย้ำว่า ไม่หวั่นไหวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถือเป็นกระบวนการตรวจสอบ วันนี้ยังไม่ได้มีการชี้แจงและไม่ทราบข้อกล่าวหา ก็คงต้องรอให้มีการตอบในสภาก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เช็กเสียงรัฐบาล vs ฝ่ายค้าน ก่อนศึกซักฟอก

ส่วนกระแสข่าว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ บางส่วนอาจไม่โหวตให้ นายณัฏฐพล เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐมีความเป็นเอกภาพ ไม่มีข้อกังวลใดๆ เชื่อว่ากระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความคิดเห็นที่ตรงกันมีอยู่แล้วในทุกพรรคการเมือง ดังนั้นไม่มีอะไรที่ต้องน่ากังวล และตนจะทำหน้าที่ต่อในสภา และไม่น้อยใจ ถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมมองว่าผู้ที่ปล่อยข่าวนี้ อาจเกิดขึ้นจากความคิดเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่อง ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายก็ต้องผ่านการตรวจสอบในรัฐสภา และคงต้องตอบคำถามให้ดี เหมาะสม เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจไม่ไว้วางใจกันมากกว่า แต่ตนไม่กังวลอะไรอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเพราะไม่ค่อยรับฟัง ส.ส.ในพรรค และประสานงานในกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าประสานงานเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องการโยกย้ายตนทำไม่ได้อยู่แล้ว การพิจารณาขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่เหมาะสม ผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งจะต้องพิจารณาอย่างครบถ้วน และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ หากจะฝากใครมาก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนแนวทางการทำงานในอนาคต ตนยังยึดมั่นแนวทางในการทำงานอย่างตรงไปตรงมา ถูกต้องตามความเหมาะสมในการบริหารจัดการเพื่อผลประโยชน์ของเด็กเยาวชน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตนไม่สามารถนำเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองและพรรคการเมืองมาตัดสินใจในการบริหารกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเป็นการสวมหมวกคนละใบ
 

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการโดนลูกหลงจากการส่งภรรยาลงชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นคนละเรื่องกัน เชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าภริยาของตนมีความสนใจทางการเมือง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองอื่นๆ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบริหารในกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีคนเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนักเรียนเลว ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องระบบการศึกษาจะส่งผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ก็เชื่อว่า ไม่มีผลและยังมีอีกหลายกลุ่มที่มีการแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป และได้นำข้อเสนอจากทุกกลุ่มนำมาพิจารณาหาความเหมาะสม ส่วนใดที่ต้องปรับปรุงก็ได้ตั้งคณะทำงานแล้ว