ไขข้อข้องใจน้ำซุปชาบูไขมันสูงจริงหรือไม่ หลังแห่แชร์คลิป "ห้ามกินชาบู"

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" เกี่ยวกับประเด็นที่มีการแชร์คลิปเตือนห้ามกินชาบู ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยม โดยให้เหตุผลว่า "น้ำซุปของชาบูมีไขมันสูงกินเข้าไปแล้ว จะไปแข็งเป็นก้อนในร่างกายอุดตันเส้นเลือด"

 

 

ส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง และมีการแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับน้ำซุปของชาบู ว่าจริงหรือไม่ที่มีไขมันสูงจนถึงขั้นห้ามกินกันเลย

 

โดยเรื่องนี้อาจารย์เจษฎา เผยว่า กรณีที่มีการแชร์คลิปวิดีโอพร้อมแคปชั่นเตือนห้าม "อย่ากินชาบูเพราะน้ำซุปมีไขมันสูง กินเข้าไปแล้วจะไปแข็งเป็นก้อนในร่างกาย อุดตันเส้นเลือดนั้น เรื่องนี้มันมีทั้งที่จริงและไม่จริงปนๆ กัน

 

อาจารย์เจษฎา ให้ข้อมูลว่าในคลิปนั้นเหมือนเป็นเหตุการณ์เพื่อนฝูงกลุ่มหนึ่งมากินชาบูกัน แล้วหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มก็สาธิตให้ดูว่าถ้าเอาน้ำซุปของชาบูมาเทน้ำแข็งลงไป ซักครู่จะเกิดเป็นก้อนไขมันก้อนใหญ่ ตักขึ้นมาให้ดูตกใจกันทั้งกลุ่ม

 

ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องจริง ในน้ำซุปชาบูก็น่าจะมีไขมันได้สูงเช่นกัน ขึ้นกับกระบวนการเตรียมน้ำซุปและตอนที่นั่งกินชาบูกันนั้นว่าใส่อะไรลงไปต้มบ้าง การที่ใส่น้ำแข็งลงไปก็จะทำให้ไขมันที่กระจายเป็นหยดเล็กๆ อยู่ในน้ำร้อนๆ มาจับตัวกันเป็นก้อนได้

 

แต่ที่มีแคปชั่นเพิ่มไปว่า ถ้ากินเข้าไปไขมันในน้ำซุปชาบูจะไปแข็งตัวในร่างกายเราในกระเพาะอาหาร ไปอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ อันนี้ไม่จริงนะ เพราะร่างกายของเรามีอุณหภูมิเฉลี่ย 37 องศาเซลเซียส ไม่ได้เย็นจัดเหมือนน้ำแข็ง หยดไขมันก็ยังอยู่ในสภาวะเดิมไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะถูกย่อยและดูดซึมเข้าไปที่ลำไส้เล็ก แล้วก็ขึ้นกับร่างกายแต่ละคน ว่าจะมีการสะสมไขมันตามอวัยวะต่างๆ มากน้อยแค่ไหน

 

ดังนั้นโดยสรุป แม้ว่าบางคนจะคิดว่าการกินอาหารต้มๆ แบบชาบูนั้น จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีไขมันต่ำ เพราะไม่ใช่การทอดน้ำมัน แต่ก็ควรจะระวังว่า นอกจากไขมันที่อยู่ในเนื้อสัตว์ที่มาต้มชาบูแล้ว น้ำซุปชาบูก็มีไขมันสูงเช่นกัน