กองปราบเช็คเส้นทางเงิน นายทุนหนุนแก๊งฉก จยย.ส่งขายกัมพูชา

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ กองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการกองปราบปราม(ผบก.ป.) แถลงผลปฏิบัติการ กรณีตำรวจเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดรูปแบบต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย พบว่ามีกลุ่มนายทุนเปิดเพจเฟซบุ๊ค ชักชวนให้ประชาชนดาวน์รถจักรยานยนต์(จยย.) โดยกลุ่มคนร้ายรับซื้อ จยย.จากประชาชนที่เข้ามาติดต่อเพื่อส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน 

การสืบสวนสามารถจับกุม 2 คนร้าย ประกอบด้วย 1.นายทรงกลด อายุ 37 ปีผู้ขับขี่ รถกระบะบรรทุก จยย. 3 คัน 2.นายธีระ อายุ 37 ปี ผู้ขับรถกระบะบรรทุก จยย.อีก 3 คัน ได้บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ต.เตาถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564  พร้อมตรวจยึดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปตรวจคนที่บ้านพักพบจักรยานยนต์อีก 2 คัน 

จากนั้น ตำรวจเข้าตรวจสอบ 2 จุดพักรถของขบวนการนี้ และจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ นายวิชัยอายุ 27 ปี พร้อมรถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คันและอาวุธปืนอีก 1 กระบอก

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำหน้าที่รับ จยย. จากพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงไปส่งปลายทาง จ.สระแก้ว เป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 4,500 -  5,000 บาท 

โดยขั้นตอนการขนย้าย จะมีตัวแทนจากประเทศกัมพูชา มารับรถเพื่อนำไปจำหน่ายทั้งในกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน รวมจยย.ที่เคยขนส่งแล้วประมาณ 300 คันคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท จากนี้ยังเหลือการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้าย เพื่อสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการกระทำผิด ก่อนออกหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ด้าน พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2บก.ป. กล่าวถึงการกระทำผิดในลักษณะนี้ เริ่มพบเห็นได้มากเพราะในบ้านเราสามารถวางเงินดาวน์ได้ราคาถูก ด้วยจยย.ยังมีคุณภาพดี ทำให้ขายได้ราคา กลายเป็นรถที่เป็นทีี่ต้องการในประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม เครือข่ายนี้ทางกองปราบปรามคาดว่าเป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนเพราะน่าจะมีนายทุนระดับสูงขึ้นไปอีกดูแล ขอฝากเตือนถึงประชาชนที่จะหารายได้ช่องทางนี้ว่า การดาวน์รถและนำมาขายให้ขบวนการเหล่านี้อาจจะต้องรับความผิดไปด้วยเช่นในข้อหาการยักยอกทรัพย์ หรือลักทรัพย์