ข่าว

ราชกิจจาฯ ประกาศ ฉ. 3 ห้ามชุมนุม-มั่วสุม เสี่ยงแพร่โควิด-19 ฝ่าฝืนคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราชกิจจาฯ ประกาศฉบับ 3 ห้ามชุมนุม-มั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 3

ตามที่ได้มีการบังคับใช้บรรดามาตรการต่างๆ เพื่อระงับยับยั้งและป้องกันการระบาดแบบกลุ่มก้อนของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น ด้วยการปฏิบัติงานที่เข้มแข็งของพนักงาน เจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน อาสาสมัคร ตลอดจนความร่วมมือของประชาชน ทุกภาคส่วนตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานการณ์ปัจจุบันสามารถจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้อยู่ในขอบเขตได้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง รัฐบาลจึงได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 ม.ค. 2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ที่ 2/2564 เพื่อให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคม สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการป้องกันโรคตามมาตรการ ด้านสาธารณสุข

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร จำนวน 8 นาย

ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติสอดคล้องกับข้อกำหนด และคำสั่งดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มี.ค. 2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงาน เจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้องจึงให้ปฏิบัติดังนี้

1. ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 7 ม.ค. 2564

2. ห้ามมิให้มีการมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค หรือการกระทำอันเป็นการฉวยโอกาสซ้ำ เติมความเดือดร้อนของประชาชน หรือการกลั่นแกล้งเพื่อแพร่โรค ณ ที่ใดๆ ทั่วราชอาณาจักร

3. ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่าย ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรคโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขรองรับ และเป็นไปตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่จำเป็นสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และมาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่จำเป็นสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด กำหนดไว้ตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 ม.ค. 2564 ตามลำดับ

4. การชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัด ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ในพื้นที่ซึ่งมีประกาศหรือมีคำสั่งให้เป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่เฝ้าระวัง ให้ผู้จัดการชุมนุมหรือจัดกิจกรรมดังกล่าว ดำเนินการตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการที่จำเป็นสำหรับพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่เฝ้าระวัง ที่กำหนดไว้ตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 ม.ค. 2564 เว้นแต่การทำกิจกรรมของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัย หรือการทำกิจกรรมภายในครอบครัวที่อยู่ในเคหสถาน

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2564 เป็นต้นไป

ราชกิจจาฯ ประกาศ ฉ. 3 ห้ามชุมนุม-มั่วสุม เสี่ยงแพร่โควิด-19 ฝ่าฝืนคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น

ราชกิจจาฯ ประกาศ ฉ. 3 ห้ามชุมนุม-มั่วสุม เสี่ยงแพร่โควิด-19 ฝ่าฝืนคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ