นครบาล โชว์กวาดล้างยาเสพติด เล็งทลายขบวนการลัก จยย.ส่งขายเพื่อนบ้าน

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์  พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลการกวาดล้างคดียาเสพติดที่สำคัญ และคดีลักทรัพย์เป็นจักรยานยนต์ที่เตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน 

โดยคดีแรก เป็นการจับกุมนายเอกอนันต์ พร้อมพวกรวม 10 คน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยของกลางที่พบเป็นยาเสพติดประเภท 'เคตามีน' ลักษณะผงสีขาวอยู่ในจานแก้ว ชั่งน้ำหนักรวมถุงได้ 0.7 กรัม พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ไว้ในครอบครองผิดกฎหมายเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โดยผิดกฎหมาย ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วม ลักษณะมั่วสุม ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 

การจับกุมเกิดขึ้น หลังการสืบทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการปล่อยให้เช่าเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานสังสรรค์ผ่านการประกาศทางโซเชียล และเมื่อสอบสวน ก็พบว่า ภายในงานมีการสั่งซื้อ สารเสพติด 'ยาอี' ซึ่งเมื่อตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดประเภท 'เมทแอมเฟตามีน' 7 คน ส่วนอีก 3 คนไม่พบ

คดีที่ 2 เป็นกรณีพยายามปกปิดความผิด โดยตำรวจสามารถจับกุมนายอรรถพลฯ(นามสมมติ) บริเวณบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน สาขาเอกมัย พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,453 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 68 กรัม ที่สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมนายวรพลฯ (นามสมมติ) ก่อนหน้านี้ที่มียาเสพติดไว้ครอบครอง และทราบว่าต้นทางส่งมาจากบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนรายเดิมนี้ 

คดีที่ 3 สืบเนื่องจากการจับกุม ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่หลายคดีในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทราบว่า กลุ่มบางนามีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสานผ่าน จ.เลย  ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.พิมลรัตน์ฯ พร้อมพวกรวม 5 คน ได้ที่ กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง เฮโรอีน 1,200 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 420 กิโลกรัม รถยนต์ สมาร์ทโฟน สมุดบัญชีธนาคาร และบัตร ATM 

คดีที่ 4 กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับตำรวจนครบาล 8 (กก.สส.บก.น.8) สน.บุปผาราม สน.สมเด็จเจ้าพระยา สน.บางมด และสน.บางยี่เรือ ร่วมกันสืบสวนจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์(จยย.) ที่จะออกตระเวนไปในเขตชุมชน เมื่อสบโอกาสจะเข้าไปใช้เหล็กรูปตัวที เสียบเข้าทำลายที่เบ้ากุญแจเครื่องยนต์ ก่อนฉกเอา จยย.ไป แต่กล้องวงจรปิด สามารถจับภาพไว้ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบพฤติกรรมก่อเหตุและเส้นทางหลบหนี 

การสืบสวนทราบว่า นายพุฒิพงศ์ หรือไอซ์ เป็นหนึ่งในแก๊งลัก จยย. อีกทั้งการจับกุมเจ้าหน้าที่พบยาไอซ์ น้ำหนัก 0.89 กรัมและเครื่องมือก่อเหตุ พร้อมยังพบประวัติก่อเหตุมาแล้ว  16 คดี นำทรัพย์ที่ขโมย ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีการปลอมแปลงเอกสารตัวรถซึ่งเป็นลักษณะขบวนการใหญ่

"พฤติการณ์กลุ่มนี้ พบความร่วมมือกับชาวต่างชาติเพื่อนบ้านโดยหลังจากลัก จยย.ในเขตนครบาลแล้ว จะนำมาซุกซ่อนในเขตปริมณฑล กว่า 50 คัน ก่อนลำเลียงออก ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านผ่านจ.ตาก ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีรถที่ถูกก่อเหตุแล้วไม่น้อยกว่า 200 คัน" พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าว