ข่าว

ผบ.ทบ.เปรียบยุทโธปกรณ์เหมือน"ทิชชู่" หมดแล้วก็ต้องซื้อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พล.อ.ณรงค์พันธ์ เมินตอบ ปมฝ่ายค้านจี้ตัดงบฯ กองทัพ ยันจัดซื้อยุทโธปกรณ์เป็นสิ่งจำเป็น เปรียบเป็น "ทิชชู่" หมดแล้วก็ต้องซื้อ ระบุ ไม่มีความเห็นสถานการณ์ในเมียนมา สัมพันธ์ทางทหารยังเหมือนเดิม ย้ำ เรื่องรัฐประหารไม่มีในหัว

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2564 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเสนอให้ตัดงบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์โปรเจคท์ใหญ่ของกองทัพว่า ตนไม่ขอชี้แจง เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาลและรัฐสภา ในขณะเดียวกันก็ได้ไปชี้แจงในชั้นกรรมาธิการของสภาฯ แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพเป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกับของภายในบ้านที่มีอายุการใช้งานตามระยะเวลา เมื่อเสียก็ต้องซื้อใหม่ เช่นเดียวกับกระดาษชำระหรือทิชชู่ที่ใช้ในห้องน้ำ ถามว่าหากหมดแล้วจะใช้อะไร ทั้งนี้ตนเข้าใจดีในสถานการณ์ที่ประเทศไทย กำลังเผชิญการแพร่ระบาดโควิด-19 ปีนี้จึงลดการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ แต่จะเสนอเพียงโครงการซ่อมบำรุงเป็นส่วนใหญ่ด้วยการพึ่งพาตนเอง ทำให้สามารถใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
 ปิดจ๊อบ เรือดำน้ำ

ผบ.ทบ. กล่าวถึงการเฝ้าระวังชายแดนด้านตะวันตกป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองของเมียนมาร์ข้ามแดนหลังเกิดเหตุรัฐประหารว่า ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่มาตรการคุมเข้มชายแดนด้านตะวันตกได้ดำเนินการอยู่แล้ว เพราะเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งรัฐบาลผ่อนปรนแรงงานต่างด้าวถึงวันที่ 15 ก.พ.2564 ซึ่งเราก็กังวลเรื่องพวกนี้อยู่ อาจจะมีพวกฉวยโอกาสจึงคุมเข้มกันเต็มที่ โดยกองกำลังชายแดนสามารถสกัดกั้นผูลักลอบเข้าเมืองได้ทุกวัน ตั้งแต่เดือน ต.ต.เป็นต้นมา จับกุมได้หลายร้อยคน

ส่วนจะเพิ่มกองกำลังดูแลอีกหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ยังคงที่และกองทัพบกสามารถดูแล รับมือได้โดยประสานหน่วยราชการต่าง ๆ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ลดน้อยลง ส่วนคนไทยที่อยู่ฝั่งเมียนมา แม้บางส่วนลักลอบเข้าไปผิดกฎหมาย แต่จากการประสานงานและความสัมพันธ์แนวชายแดนระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสอฝ่าย จึงสามารถทำความเข้าใจให้กลับมาไทยโดยผ่านช่องทางเพื่อให้ควบคุมได้

เมื่อถามว่า ได้ติดต่อไปยังทางการเมียนมาเพื่อสอบถามสาเหตุและข้อเท็จจริงการทำรัฐประหารหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่มี เพราะเป็นเรื่องของภายในของเมียนมา ทหารคุยแต่เรื่องทหารเพียงอย่างเดียว
 

เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนของกองทัพไทยต่อเหตุการณ์ที่เมียนมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ยึดหลักการของอาเซียนเช่นเดียวกับรัฐบาล เพราะกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล เป็นส่วนราชการของรัฐบาล เรื่องภายในของเขา เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะคุยกัน แต่ความสัมพันธ์ทางทหารยังเหมือนเดิม มีความสัมพันธ์ที่ดี มีความร่วมมือกันมาตลอดประชาชนแนวชายแดนอยู่ร่วมกันดี ผ่านหมู่บ้านคู่ขนาน

เมื่อถามถึงความรู้สึกประเทศไทยมีรัฐประหารเป็นครั้งคราว เมื่อมีเหตุการณ์รัฐประหารที่เมียนมารู้สึกอย่างไร ผบ.ทบ. กล่าวว่า ไม่มีความรู้สึก และว่า “บอกแล้วคำนี้ไม่มีในหัวผม ไม่มีมานานแล้ว จะเห็นว่ามันหายไปนานแล้ว เพียงแต่พวกเราไปอยู่ในวอร์ตรงนู้น แล้วเอาพูดคำนี้ขึ้นมา ผมไม่มีอยู่แล้ว”

ส่วนที่มีข้อสังเกตว่าการรัฐประหารในเมียนมามีรูปแบบเดียวกับของไทย พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น

เมื่อถามถึงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวในไทยยกการรัฐประหารในเมียนมามาโจมตีเปรียบเป็นการตีวัวกระทบคราด ผบ.ทบ. กล่าวว่า ไม่ ๆ เราตกลงกันแล้วคือนักข่าวสายทหารควรถามเรื่องทหาร เมื่อไหร่ถามเรื่องการเมืองก็ถือว่าจบข่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ