ข่าว

ติวเข้มพนักงานสอบสวน ทำสำนวนทุจริต 'เราเที่ยวด้วยกัน' เริ่มพรุ่งนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสรณ์' เรียกผู้บังคับการฯ คุมสอบสวนทั่วประเทศ ติวเข้ม 2 วัน ตรวจสอบ'โรงแรม - ร้านค้า- ผู้สวม-ผู้ใช้สิทธิ' อีก 900 แห่ง วางแนวสอบสวน ใช้สิทธิหรือไม่ สมัครอย่างไร เล็งเรียกเงินคืนรัฐ ขยายผลประสาน สศก. ททท. แบงก์กรุงไทย ดึงเป็นเจ้าทุกข์

จากโครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' มีผู้ใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่า 9,000 คน เข้าข่ายกระทำผิดทุจริต ฉ้อโกงเงินรัฐและนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยตำรวจกองปราบ เริ่มระดมกวาดล้างจับกุมในพื้นที่เป้าหมาย 55 จุด ของจ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 50 ราย และยังมีการขยายผลเอาผิดประชาชนที่ร่วมโกงอีกจำนวนมาก

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เรียกตำรวจระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.) ที่ประจำกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 - 9 (บช.ภ.1-9) รวมถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) มาประชุมที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนแวนชั่น กรุงเทพฯ ในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อวางแนวทางและวางกรอบการสอบปากคำให้สำนวนคดีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  

ทั้งนี้ ในการประชุม ได้เชิญวิทยากร อย่าง พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เป็นผู้บรรยายในการวางแนวทางการสอบสวนในครั้งนี้

หลังการสืบสวนในบ้างพื้นที่ พบว่า ภาพรวมโครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' ยังต้องตรวจสอบอีกกว่า 900 แห่ง ทั้งโรงแรม ร้านค้า รวมถึงผู้สวมสิทธิและผู้ใช้สิทธิ โดยจะให้แต่ละพื้นที่เกิดเหตุเป็นคนรับทำคดี ยึดแนวทางของกองปราบ และทำงานช่วยกันทั่วประเทศ เช่น ผู้ให้ถ้อยคำอยู่จังหวัดใด ก็จะส่งประเด็นให้จังหวัดนั้นเป็นผู้สอบ จะได้ไม่ต้องมีการเคลื่อนตัวมาก เพราะอยู่ในช่วงโควิด-19 ระบาด

อย่างไรก็ตาม ในด้านการสอบสวน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า มีการตั้งประเด็นการสอบสวนที่จะนำไปใช้เป็นวางแนวทางซักประเด็นกับประชาชนผู้ใช้สิทธิที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดไว้แล้ว เช่น ได้ใช้สิทธิในโครงการหรือไม่ สมัครใช้สิทธิอย่างไร หากทำผิดจริงจะคืนเงินหรือไม่ รวมถึงจะมีการพูดคุยกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงไทย ว่าจะมีการดำเนินการตามกฏหมายอย่างไรด้วย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ