จับแก๊งค้ายาร่มเกล้า ยึดไอซ์-อาวุธ เพียบ

เมื่อเวลา 21.30 น. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รองผบก.น.3  พ.ต.อ.นันทภูมิ เรืองรุ่ง ผกก.สน.ร่มเกล้า พ.ต.ท.พีระณฤทธิ์ พรพีรพาน รอง ผกก.สส.สน.ร่มเกล้า

 

 

พ.ต.ท.สุคนธ์ แสงโสดา สว.สส.สน.ร่มเกล้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า ร่วมกันจับกุมตัวนายสุทธิพงค์ หรืออีฟ มนัสซง อายุ 33 ปี และนายยุทธนา หรือรอส อับดุล อายุ 29 ปี พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์) จำนวน 9 ถุง น้ำหนักรวมถุงละประมาณ 193.70 กรัม

 

อาวุธปืนขนาดต่างๆ จำนวน 6 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยตรวจยึดของกลางได้ที่บริเวณเพิงพักข้างบ้านเลขที่ 31 ซอยกาญจนาภิเษก 17 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม. เมื่อเวลา 19.45 น ( 1 ก.พ. ) ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ร่มเกล้า รับแจ้งจากสายลับว่า นายสุทธิพงศ์ ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ เข้ามาพักอาศัยอยู่ห้องพักในแฟลตเอื้ออาทรร่มเกล้า เขตลาดกระบัง และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ฐานความผิดมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

 

 

 

เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเฝ้าดูความเคลื่อนไหว จนพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน 5 กภ 6396 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามา โดยมีนายสุทธิพงศ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่สายลับแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบกุญแจห้องพัก จากนั้นจึงให้ผู้ต้องหานำพาตรวจค้นห้องพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ระหว่างพาตรวจค้นพบพวงกุญแจที่ผู้ต้องหาอีก 1 ดอก ลักษณะไม่ใช่กุญแจห้องพัก

 

ซึ่งต่อมายอมรับว่า เป็นกุญแจล็อกกล่องใส่อาวุธปืน และยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่เพิ่งพักโดยนายยุทธนา ทำหน้าที่คอยเฝ้ายาและอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลาง

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า ได้สั่งซื้อยาเสพติดมาจากเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ริมคลองลาดบัวขาว ครั้งละ 5 ขีด ในราคา 75,000 บาท และนำมาขายต่อขีดละ 20,000 บาท ส่วนอาวุธปืนเป็นของนายสุทธิพงศ์

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือยาไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป