ผบ.ตร.ลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ในพื้นที่นราธิวาส
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2564) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
โดยลักลอบวางเพลิงเสาสัญญาณโทรศัพท์ และกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร เดินทางเข้าทำการตรวจสอบ ได้ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดระหว่างทาง ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ ขณะออกตรวจพื้นที่จำนวน 5 นาย และรถยนต์เสียหาย 1 คัน
ทั้งนี้ หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับรายงานเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.นราธิวาส จึงได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจ ซึ่งปฏิบัติงานและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือบำรุงขวัญให้กับ ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.ศรีสาคร ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศ ขณะนี้ทางราชการได้มีการปลดล็อคมาตรการบางอย่างในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบกับเป็นช่วงเวลาเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และจากการสอบสวนโรคติดเชื้อส่วนหนึ่งได้ลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายทางด่านพรมแดนธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างด้าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงสั่งการให้หน่วยปฏิบัติตามแนวชายแดนบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ที่เป็นแนวติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านทุกด้าน ทั้งพื้นที่ทางบกและทางน้ำ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีแนวเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีสถานการณ์ทางการเมือง และให้บูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจ รวมไปถึงการจัดกำลังตำรวจเพื่อลาดตระเวนในพื้นที่สี่ยง ป้องกันการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย
พร้อมทั้งให้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยให้ดำเนินการตรวจคัดกรองโรคทุกราย และให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย และหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง