
'อนุดิษฐ์' ร้อง ปคม.ล่าหัวนายจ้างหลอก 6 หญิงไทยค้ากามบาห์เรน
'อนุดิษฐ์' ส.ส.เขตสายไหม พา6สาวไทยถูกนายจ้างหลอกค้าประเวณีบาห์เรน ร้องปคม. เร่งตามตัวดำเนินคดี เหยื่อสาว เปิดใจตกงาน เห็นรับสมัครพนักงานร้านนวดไทย ติดต่อผ่านนายหน้าแชทไลน์ หลงเชื่อไปทำงานถูกยึดพาสปอร์ต บังคับค้าประเวณี หากไม่ทำถูกทำร้าย ก่อนหนีออกมาได้
วันนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.เขตสายไหม อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พา 6 หญิงสาวชาวไทยที่ถูกนายจ้างหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ปคม.,พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม.และ พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.ให้ช่วยติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ร่วมรับฟังการสอบปากคำ ก่อนนำเหยื่อนำเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือตามกฎหมาย
พล.ต.ต.สยาม กล่าวว่า คดีนี้ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ(กต.) ว่ามีการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์รายหนึ่ง ที่หนีมาจากประเทศบาห์เรน หลังหางานร้านนวดแผนโบราณจากเฟซบุ๊กให้ไปทำงานในประเทศบาห์เรน โดยมีนายหน้าชาวไทยโน้มน้าวว่าจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ มีค่าจ้างสูง อ้างว่าไม่มีการค้าประเวณี แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับข่มขู่ให้ค้าประเวณี ถูกยึดพาสปอร์ต กักขังไว้และอ้างว่าจะมีค่าปรับจำนวนสูงหากหนีกลับมา ทำให้เหยื่อจำใจทำต่อไป ก่อนที่จะหนีออกมาขอความช่วยเหลือได้ จากนี้ บก.ปคม.จะสอบสวนรายละเอียดต่างๆ ก่อนขยายผลถึงตัวผู้ต้องหาแล้วติดตามมาดำเนินคดี
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า มีผู้เสียหายติดต่อผ่านญาติที่อยู่ในเขตสายไหมเข้ามาว่าถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรนมาตั้งแต่ปลายปี 2563 รวมระยะเวลาราว 2 เดือนเศษ ตนจึงประสานตำรวจและ กต.เข้าให้การช่วยเหลือเหยื่อได้ทั้งหมด ก่อนพาเหยื่อมาร้องทุกข์กับ ตำรวจ ปคม.ขอฝากว่า คนที่จะไปทำงานต่างประเทศ ให้ประสานกับกระทรวงแรงงานหรือกรมจัดหางานตามแต่ละจังหวัดตามขั้นกฎหมาย ไม่เช่นนั้นอาจมีโอกาสถูกหลอกลวงได้สูง
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวว่า จากสถิติปี 2561 พบว่ามีคนไทยไปทำงานต่างแดนในหลายประเทศ เช่นบาห์เรน เยเมน ญี่ปุ่น การ์ต้า เยอรมนี แต่พบว่าบางส่วนสมัครใจไปค้าประเวณีเอง และมีบางส่วนที่ถูกหลอก จึงต้องมาสอบปากคำร่วมกับ พม.เพื่อคัดแยกเหยื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมายพร้อมประสานอัยการสูงสุดร่วมสอบสวนและขอออกหมายแดงเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการค้ามนุษย์ที่อยู่ในต่างประเทศต่อไป
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) หนึ่งในเหยื่อ กล่าวว่า ตนตกงานช่วงโควิดระบาด ไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว แล้วเห็นข้อความรับสมัครพนักงาน ทำงานร้านนวดไทย ที่ประเทศบาห์เรน ระบุว่ารายได้ดี เดือนละเกือบ 100,000 บาท ตนจึงสนใจ ติดต่อพูดคุยกับนายหน้าผ่านทางแชทไลน์ โดยนายหน้าแจ้งว่า เป็นงานนวดไทยเท่านั้น ไม่มีการค้าประเวณีใดๆ และเมื่อไปถึงบาห์เรน จะต้องเข้าอบรมการนวด 2 สัปดาห์ ก็จะสามารถทำงานได้
"หลงเชื่อ ตกลงไปทำงาน โดยนายหน้าแจ้งว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะหักจากเงินเดือนที่ได้รับโดยผ่อนชำระเป็นงวดๆ แต่เมื่อมาถึงประเทศบาห์เรน มีนายหน้าชาวบาห์เรน มารับที่สนามบินพาไปที่พัก วันต่อมาถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ทำจะต้องเสียเงิน 130,000 บาท หากไม่ทำจะถูกทุบตีทรมาน" น.ส.เอ ระบุ
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า มีบางวันต้องรับลูกค้านับ 10 ราย โดยไม่ได้รับเงินทั้งสิ้น ตนก็ยอมเพื่อให้ไม่คิดว่าจะหนีแล้ว ก่อนที่แม่เล้าจะยอมให้ตนใช้โทรศัพท์ ยอมให้ตนออกไปข้างนอก เมื่อสบโอกาส ตนจึงนัดกับเหยื่ออีก 3 คน พากันหลบหนีออกไปติดต่อขอความช่วยเหลือ