ข่าว

ไทม์ไลน์ชัดๆ ใครคือเจ้าหน้าที่รัฐโยง 'มะตูม'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ประเด็นไทม์ไลน์ของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวพันกับ "ดีเจ มะตูม" มีการตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็น โดยเฉพาะ การปกปิดไทม์ไลน์ และไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง จนสร้างความสับสนให้กับสังคม

วันที่ 29 มกราคม 2564 การปกปิดไทม์ไลน์ของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวโยงกับงานปาร์ตี้วันเกิดของ 'ดีเจ มะตูม' ก็มีกรณีของข้าวโอ๊ต อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ ซึ่งถูกนักสืบโซเชียลแฉข้อมูลที่ต่างออกไป จนเจ้าตัวทนไม่ไหวต้องออกมา ชี้แจงไทม์ไลน์ของตัวเองแบบเต็มๆ โดยการโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค พร้อมคำขอโทษทุกคน ที่เจ้าตัวออกมายืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด

อีกหนึ่งบุคคลที่ทาง ศบค.เปิดเผยไทม์ไลน์ ก็คือ ชายซึ่งประกอบอาชีพเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นผู้ป่วยรายที่ 658 โดยมีการยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัฐรายนี้ได้ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อน ที่โรงแรมบันยันทรี เขตสาธร ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการจัดงานวันเกิดของดีเจ มะตูม และสุดท้ายก็มาพบว่า ตัวเองติดเชื้อโควิด-19

ไทม์ไลน์ชัดๆ ใครคือเจ้าหน้าที่รัฐโยง 'มะตูม'

ที่นี้ ขอให้ผู้อ่านตั้งหลักร่วมกัน ด้วยการส่องไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาย(เจ้าหน้าที่รัฐ) รายที่ 658 ก็จะพบว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม เจ้าหน้าที่รัฐรายนี้ ยืนยันว่า ได้ไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนที่ที่โรงแรมบันยันทรี และวันที่ 15 มกราคม ได้อยู่ในห้องพัก เขตราชเทวี ด้วยอาการอาหารเป็นพิษ วันที่ 16 มกราคม มีเพื่อนมาหาห้องพัก ซึ่งทราบภายหลังว่า เพื่อนคนนี้เป็นผู้ป่วยที่ยืนยันแล้ว

ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2564 เวลา 17.00 น. ไปตลาดนัดสวนจตุจักร จากนั้นเวลา 18.30 น.ไปรับประทานหมูกระทะที่ร้าน “Factory” ต่อมาวันที่ 18 มกราคม ไปทำงานที่หน่วยงานของรัฐ ในพื้นที่เขตปทุมวัน และช่วงหัวค่ำ ได้ไปทานอาหารที่ร้านส้มตำ “น้องรีจ๊อย รัชโยธิน”

นี่เป็นเพียงไทม์ไลน์บางส่วน ที่ระบุการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐรายนี้

หลายคนอาจมองว่า ไม่เห็นประเด็นอะไรที่น่าสนใจ เพราะข้อมูลที่ระบุข้างต้นก็เป็นการเปิดเผยไทม์ไลน์ตามปกติ ที่ ศบค.นำออกมาแถลงข่าวแล้ว แต่เมื่อ 'ทีมข่าวข้นคนข่าว' นำมาตรวจสอบ ปรากฎว่า ไทม์ไลน์นี้ไปตรงกับไทม์ไลน์ของนายตำรวจคนหนึ่ง ระดับสารวัตร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในพื้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งข่าวการติดโควิดของเขาในช่วงที่ออกมาเปิดเผยนั้น เรียกเสียงฮือได้พอควร เพราะความเป็นลูกชายอดีตนายพลคนดัง

แน่นอน หลังการเปิดตัวว่า ติดเชื้อโควิดของสารวัตรรายนี้แล้ว หน่วยงานต้นสังกัดได้สั่งปิดสถานที่ทำงานถึง 3 วัน และเพิ่งจะเปิดให้บริการประชาชนเมื่อวานนี้

ไทม์ไลน์ชัดๆ ใครคือเจ้าหน้าที่รัฐโยง 'มะตูม'

สิ่งที่อยากให้ผู้อ่านได้ลองเปรียบเทียบ คือ ไทม์ไลน์ของนายตำรวจ ยศสารวัตรท่านนี้ ซึ่งเจ้าตัวได้เคยออกมาเปิดเผยเองว่า เขามาทำงานช่วงวันที่ 5 / 7 / 13 / 15 / 18 / 19 / 20 และ 22 ส่วนวันหยุดก็พักผ่อนในคอนโด ไม่ได้ไปไหน มีการลงมาร้านสะดวกซื้อบ้าง และสั่งอาหารจากแกร๊บไบค์ ขณะที่วันธรรมดาที่ไปทำงานก็เดินไปกลับที่พักแทบทุกวันโดยไม่ขึ้นรถไฟฟ้า เพราะห่างจากที่ทำงานแค่ 1 สถานีเท่านั้น

ส่วนวันอื่นๆ ที่มีการออกไปทำกิจกรรม คือ วันศุกร์ที่ 15 เป็นวันหยุดพักผ่อนที่คอนโด ช่วงเที่ยงคืนมีอาการอาหารเป็นพิษ วันเสาร์ที่ 16 มีเพื่อนมาเยี่ยมที่คอนโดฯ ซึ่งเพื่อนคนที่มาหาได้ทำการตรวจโควิดที่โรงพยาบาลรังสิตแล้ว ไม่พบเชื้อ (นี่คือข้อสังเกตแรกที่แตกต่างจากการให้ข้อมูลไทม์ไลน์กับทางเจ้าหน้าที่)

ต่อมา วันที่ 17 มกราคม เดินทางได้ไปจตุจักร และเดินทางไปยังร้านหมูกระทะ “Factory” เพื่อรับประทานอาหารกับเพื่อน ก่อนจะกลับคอนโดฯ เวลา 20.00 น. จากนั้นวันที่ 18 มกราคม เดินทางไปที่อาคารกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นช่วงเย็นเดินทางไปเรียนดนตรี ย่านนวลจันทร์ (ข้อมูลตรงนี้ไม่มีการเปิดเผยในไทม์ไลน์ของ ศบค.)

ก่อนจะไปรับประทานอาหารร้าน “ส้มตำ น้องรีจ๊อยส์ รัชโยธิน” กับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งเพื่อนได้รับการตรวจโควิดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แต่ไม่พบเชื้อเช่นกัน 

ส่วนวันที่ 19 มกราคม ก็ไปทำงานตามปกติ และไปที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อรับยาแทนเพื่อน และนำยาส่งให้เพื่อนที่สะพานควาย ซึ่งเพื่อนคนนี้ ได้เข้ารับการตรวจโควิดแล้ว กำลังรอผลตรวจ  และวันที่ 20 มกราคม ได้ไปที่โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง ตามนัดของตัวเองเพื่อพบแพทย์ และทำงานต่อที่กองทะเบียนประวัติตามปกติ จนช่วงหัวค่ำได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปทานข้าที่ร้านส้มตำข้างทาง เยื้องสถานี BTS ก่อนกลับคอนโด

ขณะที่วันที่ 21 มกราคม ฟังข้อมูลตรงช่วงนี้กันดีๆ เขาบอกว่า เป็นวันหยุดพักผ่อน และได้ข่าวงานวันเกิดดีเจมะตูมมีการติดโควิด และส่วนตัวได้มีเพื่อนที่ไปงานวันเกิด และได้มาพบตนเองที่คอนโดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (เขายืนยันว่า ตัวเองไม่ได้ไปงานวันเกิดเซเลปชื่อดัง แต่จากไทม์ไลน์ ศบค. เจ้าตัวยืนยันว่าได้ไปร่วมงานวันเกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่โรงแรมบันยันทรี)

และสุดท้าย วันที่ 22 มกราคม ท่านสารวัตรเข้ารับการตรวจโควิดที่โรงพยาบาลตำรวจ จากนั้น เข้าประชุมที่ห้อง 302 ตอนเวลา 11.00 น. ก่อนที่ช่วงเย็นจะเดินทางกลับที่พัก และตั้งใจจะไปกักตัวที่ จ.นนทบุรี ตามคำแนะนำหลังตรวจโควิด จนกระทั่งได้รับแจ้งผลตรวจว่า พบเชื้อโควิดและให้กลับมารายงานตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นก็พักดูอาการกักกันโรคที่โรงพยาบาลเป็นต้นมาจนถึงเวลาปัจจุบัน

ไทม์ไลน์ชัดๆ ใครคือเจ้าหน้าที่รัฐโยง 'มะตูม'

จากข้อมูลไทม์ไลน์ ที่เราเอามาเปรียบเทียบกัน จะพบว่า ข้อมูลที่สารวัตรรายนี้แจ้งต่อ ศบค.ที่มีความคลาดเคลื่อนกันพอสมควร ล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ไทม์ไลน์ที่ระบุว่า ตนเองได้ไปงานวันเกิดของดีเจมะตูม ที่โรงแรมบันยันทรี เป็นเรื่องโกหก แต่ไทม์ไลน์ที่แก้ไขที่หลังคือของจริง

โดยวันที่ 16 มกราคม เพื่อนของสารวัตรรายนี้ ได้ไปงานปาร์ตี้ 'ดีเจ มะตูม' จริงตามข้อมูลที่เราได้เปิดเผย และเพื่อนคนนี้มาหาถึงที่พัก และมีการรับประทานอาหารร่วมกัน หลังจากนั้นในวันที่ 21 มกราคม เพื่อนได้บอกว่า ติดโควิด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ตนเองต้องโกหกหรือปกปิดไทม์ไลน์ต่อเจ้าหน้าที่ เนื่องจากว่า ตนเองมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ จึงต้องโกหก เพื่อให้ตัวเองได้ตรวจคัดกรองและทราบผลไวๆ เพราะก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลตำรวจ ไม่ยอมให้ตนเองตรวจหาเชื้อ แต่ให้กักตัวไว้ก่อน 

เมื่อผลตรวจออกมาเป็นบวก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล จึงได้ส่งไทม์ไลน์ฉบับแรกไปให้กรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค จึงเป็นสาเหตุที่ทำไม กทม.ถึงรายงานในตอนแรกว่า ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับปาร์ตี้ แต่พอมีไทม์ไลน์ชุดใหม่ถูกส่งไป ข้อมูลตรงนี้ ได้ถูกตัดทิ้ง และเริ่มต้นไทม์ไลน์ช่วงวันที่ 15 มกราคม แทน

จากข้อมูลที่นายตำรวจยศสารวัตรรายนี้ออกมาเปิดเผย ท่านที่ได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วลองพิจารณาดูว่า ทำไมเขาต้องโกหก เพราะตัวเองก็เป็นตำรวจแท้ๆ ทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไมโรงพยาบาลตำรวจจะไม่ยอมตรวจหาเชื้อให้ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โต

แน่นอนว่า นายตำรวจคนนี้ มีคุณพ่อเป็นอดีตนายพลชื่อดัง เคยได้รับการแต่งตั้งสูงสุด คือ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อว่า หากใครแค่เห็นนามสกุล ก็น่าจะไม่ขัดข้องที่จะช่วยเหลือในการตรวจหาเชื้อโควิดให้กับเจ้าตัวอย่างแน่นอน จึงสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ยอม “พูดความจริง” กันแน่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ