จ.สุราษฎร์ธานี เปิดกล้องจงจรปิด ตามล่าไอ้หื่น เข้าร้านสะดวกซื้อ ขอชักว่าวได้ไม่ แต่สุดท้ายพยามขืนใจ โชคดีมีคนเข้าช่วยทัน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 มกราคม 63 ที่สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปั้นทอง รอง สว.สอบสวน สภ.พุนพิน ได้เร่งสอบปากคำ น.ส.เอ อายุ 19 ปี และ น.ส.บี อายุ 31 ปี 2 ผู้เสียหายถูกหนุ่มอนาจาร ในพื้นที่ ต.มะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อหาตัวคนร้าย หวั่นจะเกิดเหตุซ้ำ
จากการสอบปากคำ น.ส.เอ อายุ 19 ปี ลูกจ้างร้านสะดวกซื้อ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อเวลา 19.20 น.ได้มีผู้ชาย อายุประมาณ 25-30 ปี ตัดผมทรงสกินเฮด สวมเสื้อยืดสีดำแขนยาว ลายขวาง กางเกงสีน้ำตาล สามส่วน รองเท้าแตะสีเหลือง ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่หน้าร้านแล้วเดินวนเวียนอยู่ 2-3 รอบตนเห็นผิดสังเกตุจึงโทรหาแฟนหนุ่มซึ่งพักอยู่ใกล้กับร้าน ขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวก็ได้เปิดประตูเข้ามาในร้านเอามือจับที่อวัยวะเพศ และพูดว่า “ผมขอชักว่าวแปปเดียวได้มั้ย” พร้อมปิดล็อกประตูร้าน ตนจึงได้ตะโกนออกไปว่า มีพ่อเป็นตำรวจและกำลังจะมา ทำให้คนร้ายตกใจกลับออกไปออกไปจากร้าน แต่คนร้ายได้กลับเข้ามาอีก พร้อมกับเข้ามาล็อคคอ ตน ซึ่งตนได้พยายามขัดขืน แต่คนร้ายได้ใช้กำลังผลักตนเองจนล้มลงกับพื้น ขึ้นคร่อม และทำร้ายร่างกายด้วยการชกตามใบหน้าและลำตัว หลายครั้ง จนกระทั่งแฟนหนุ่มเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน แต่คนร้ายอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งไป ขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดติดเครื่องยนต์ไว้ที่หน้าร้านขับหลบหนีไป
ด้านน.ส.บี อายุ 31 ปี กล่าวว่า ขณะที่ตนเองขับขี่รถ จยย.และจอดรอสัญญาณไฟ อยู่ที่บริเวณแยกตัดใหม่ใกล้กับสนามบินสุราษฎร์ธานี บนถนนสาย 41 เพื่อนกลับบ้านพักที่ ต.บางงอน อ.พุนพิน ก็ได้มีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีเทา ขับมาประกอบแล้วใช้มือจับก้น แล้วขับรถมุ่งหน้าไปยังแยกกองบิน 7 และเมื่อผ่านหน้าป้อมยามของกองบิน 7 ต้นสังเกตเห็นว่าชายคนที่ใช้มือจับก้นของตนขณะจอดติดไฟแดงได้จอดรถรออยู่ริมถนนตนจึงรีบขับรถมุ่งหน้าไปยังแยกนายพันซึ่งเป็นจุดชุมชนและมีไฟแสงสว่าง และจอดรถเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นทราบ จากนั้นอีกไม่นานก็พบว่าที่ร้าน มินิมาร์ทริมถนนห่างจากจุดที่ตนแวะจอดรถ ไปประมาณ 50 เมตร ได้มีเหตุคนร้ายพยายามก่อเหตุพนักงานขายของของร้านดังกล่าว และเห็นว่าคนที่ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์คนเดียวกับผู้ที่ก่อเหตุกับตน ซึ่งตนอยากให้จับกุมได้โดยเร็ว เนื่องจากเกิดความหวาดกลัวเมื่อต้องใช้เส้นทาง และหวั่นจะเกิดเหตุร้ายกับผู้เด็กและผู้หญิงคนอื่นๆด้วย จึงได้ร่วมกันเข้าแจ้งความ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดและลงพื้นที่เพื่อตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวโดย..เจนจิรา ศรีวิรัก สุราษฎร์ธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง