
ชาวบ้านพัทลุงเดือดร้อนหนัก 11 ชีวิตไร้ที่อาศัย หลังน้องชายใช้ที่ดินค้ำกู้ กยศ.
ชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกงหรา เดือดร้อนหนัก 11 ชีวิต ไร้ที่อาศัยหลังใช้ที่ดินค้ำกู้ กยศ.ถูกฟ้องขายทอดตลาด ล่าสุด ถูกคนซื้อฟ้องไล่ที่ ไม่มีที่ไป 4 ชีวิตถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกวอนขอความเมตตาช่วยเหลือ
วันที่ 28 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายเจริญ หนูหนุด อายุ 41 ปี และนางนิตย์ ฉุนอิ่ม อายุ 40 ปีสองสามี ภรรยา ว่าครอบครัวได้รับความเดือดร้อน 11 ชีวิต กำลังจะไร้ที่อยู่ ตนและภรรยาเครียดมาก ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย นายเจริญ ฯ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ นายหรีม หนูหนุด อายุ 64 ปี ผู้เป็นพ่อ นำโฉนดที่บ้านไปค้ำประกัน ให้น้องชาย กู้เงินกองทุนเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. แต่น้องชายกลับเรียนไม่จบ และออกจากบ้านไปหางานทำที่ต่างจังหวัด จนตนมาทราบเรื่องอีกครั้งเมื่อบ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนไปซื้อที่บ้านของตนไว้แล้ว ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีเอกสารส่วนหนึ่งส่งมาที่บ้าน ซึ่งผู้เป็นพ่อและแม่เป็นคนเซ็นรับ โดยที่ทั้งคู่ก็ค่อยไม่รู้หนังสือ พวกตนเองก็เป็นคนบ้านๆมีความรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุม ตน และภรรยา พร้อมด้วยแม่ และพี่ชาย ในข้อหาบุกรุก จึงทราบเรื่องว่า บ้านถูกขายทอดตลาด และมีคนซื้อไปแล้ว ตนและครอบครัวพยายามเจรจา ขอความเมตตาซื้อกลับ แต่ ผู้ซื้อขายในราคา 6 แสน พร้อมระบุให้ตนจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งตนก็ไม่มีปัญญา เพราะครอบครัวหาเช้ากินค่ำ มีรายได้แค่วันละ 300 – 400 บาท ต้องนำมาเลี้ยงอีก 7 ชีวิต ในครอบครัว มีเงินนอกบ้างก็ได้จาก บุตรสาวทั้งกำลังเรียน ชั้น ม 4 กับ ม 5 ในโรงเรียนกงหราพิชากร เป็นนักมวยหญิง เวลาขึ้นชกมวย ก็มีค่าตัว จึงได้เงินอีกส่วนมาช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว
สำหรับยอดเงิน ที่เป็นหนี้จนเกิดการฟ้องยึดทรัพย์และขาดทอดตลาดเป็นยอดเงินกู้ กยศ ในวงเงิน 9 หมื่นบาท แต่ที่ดินติดจำนองอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรกงหรา 70,000 บาท และทราบว่าผู้ที่ซื้อบ้านได้นำเงินไปจ่ายหนี้ที่สหกรณ์การเกษตรกงหราแล้วด้วย ส่วนที่ถูกจับในข้อหาบุกรุก อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล และล่าสุด ผู้ซื้อได้ยื่นคำขาดให้ออกจากที่ดิน ภายในเดือนมีนาคม
นายเจริญ ฯ เล่าด้วยว่า ในโฉนดที่ดินกล่าวมีบ้านอยู่ 3 หลังเป็นของผู้เป็นพ่อ และแม่ 1 หลัง อาศัยรวมกับพี่ชายคนโต อีกหลังเป็นบ้านของตน รวม 11 ชีวิต ส่วนอีก 1 หลังสภาพเก่าไม่มีคนอยู่ โดยเฉพาะที่บ้านของตนอาศัยอยู่ 7 ชีวิต ประกอบด้วย ตนและภรรยา บุตรสาว 2 คน และมีลูก ๆ ของน้องชายอีก 3 คน ทุกคนอยู่ในวัยกำลังเรียน ทั้งหมด ซึ่งหากไม่มีบ้าน พวกตนก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่ไป ตนและภรรยาเครียดมาก ถึงขั้นคิดค่าตัวตาย ยอมรับเป็นความผิดพลาดของน้องชาย ที่กู้เงินไปแล้ว ก็เรียนไม่จบ และไม่ยอมส่งคืน ทั้งได้หายไปจากบ้าน จนไปได้ภรรยาสุดท้ายก็ต้องเลิกกับภรรยา และนำลูก จำนวน 3 คน เป็นชาย 2คน หญิง 1 คน มาให้ที่บ้านเลี้ยงดูอีก แต่ตอนนี้ตนก็ไม่โทษน้องชาย เพราะรู้ว่า น้องชายก็ลำบากเหมือนกัน
ตอนนี้ตนและครอบครัวไม่รู้จะหันหน้าไปไหน มืดแปดด้าน ไม่มีที่ไป จึงอยากกราบวิงวอนให้ ผู้ว่าราชการ จังหวัดได้พัทลุง ได้ช่วยเหลือไกล่เกลี่ย ให้พวกตน 11 ชีวิตได้มีที่อาศัยหลบแดดหลบฝน ####ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นที่ดินเพียงผืนเดียวที่มีอยู่ หากผู้ใจบุญ ต้องการช่วยเหลือครอบครัว สามารถร่วม สมทบทุนเพื่อให้มีบ้านได้อาศัยสามารถร่วมสมทบทุนได้ที่ บัญชีนายเจริญ หนูหนุด ธนาคารออมสิน สาขาตะโหมด หมายเลขบัญชี 020321102608
ศิริขวัญ สังข์โอภาส ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พัทลุง



