เคลียร์ปมหัวฟาดพื้น พญาไท คนเจ็บระงับแจ้งความ ตร.จ่ายค่ารักษา

วันที่ 23 มกราคม 2564 เวลา 16.00 น.ที่ สน.พญาไท น.ส.นุ่น อายุ 32 ปี น.ส.นุ้ย อายุ 25 ปี และน.ส.พิมพ์พิสุทธิ์ หมานหมัด หรือ พลอย อายุ 23 ปี กล่าวภายหลังเข้าพบตำรวจ เพื่อสอบถามกรณีถูกตำรวจผลักล้มหัวฟาดพื้น เหตุเกิดที่ สน.พญาไท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 มกราคม 2564 มารวมตัวให้กำลังใจนายธัชพงศ์ แกดำ กับเพื่อนที่ถูกคุมตัวมาเปรียบเทียบปรับจากการจัดกิจกรรมแขวนป้ายผ้าที่รั้วเกาะกลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: 'พลอย พิมพ์พิสุทธิ์' แจ้งจับนอกเครื่องแบบ พญาไท ใช้กำลังเกินเหตุ

น.ส.นุ่น กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้มาคุยกับตำรวจว่า เป็นความเข้าใจผิด ตำรวจพร้อมรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล และแสดงความเสียใจจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยเรื่องทั้งหมดเกิดจากอารมณ์และความชุลมุน เป็นความผิดพลาดที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย เพราะมีการยั่วยุกัน จึงลงบันทึกประจำวันไว้ โดยจะติดตามเรื่องค่ารักษาของน้องอีกคน ซึ่งถูกหมัดเข้าตา รวมถึง น.ส.พิมพ์พิสุทธิ์ ที่ยังมีอาการมึนศีรษะ

โดย ผกก.สน.พญาไท ก็พยายามดูคลิปวิดีโอตรวจสอบว่า เหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่นายใด แต่ไม่สามารถระบุตัวได้ จากนี้จะต้องพยายามควบคุมเรื่องอารมณ์และการสื่อสาร เพราะเหตุที่เกิดขึ้น พวกเราพยายามเข้าโรงพัก แต่ตำรวจไม่ให้เข้า ด้วยเหตุผลเรื่องการปกป้องสถานที่ราชการ ต่อไปอาจต้องประสานเจ้าหน้าที่ก่อนว่า พวกตนจะเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท กล่าวว่า การจับกุม นายธัชพงษ์ แกดำ อดีตนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ และพวกรวม 2 คนมาเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.ความสะอาด คนละ 1,000 บาท หลังนำป้ายผ้าข้อความ #saveบางกลอย และ ชาติพันธ์ุก็คือคน ไปแขวนไว้ที่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนมีกลุ่มแนวร่วมมาผลักดันแผงเหล็กหน้าโรงพัก

ตำรวจจึงพยายามยับยั้งให้เกิดความสงบจึงต้องจับกุมไม่ให้มวลชนเข้ามาภายในโรงพักจนมีคนเจ็บ ตนก็ได้ติดตามดูอาการของ น.ส.พลอย พบผลการแพทย์ไม่มีอาการเลือดคั่งทางสมอง มีเพียงรอยพกช้ำเกิดขึ้นเท่านั้น

พ.ต.อ.บวรภพ กล่าวฝากถึงผู้ชุมนุมว่า ช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่ก็ยึดกฎหมาย  พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ฉบับ 15 ข้อ 3 กับ พ.ร.บ.โรคติดต่อ จึงขอให้ไม่ให้มารวมกลุ่มชุมนุมเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรค ซึ่งก็มีการกำชับให้ตำรวจทำตามกรอบหน้าที่ตลอด ให้สื่อสารด้วยความสงบ

ส่วนเรื่องการท้าทายนั้น อาจมีตำรวจบางนายที่คุ้นเคยกับผู้ชุมนุมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ก็พูดเป็นกันเองจนปรากฎภาพนั้นออกมา ไม่ได้มีเจตนายั่วยุ