วอดทั้งหลัง วอนขอความช่วยเหลือ ไม่มีชุดใส่ไปเรียนหนังสือ

วันที่ 14 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 13 มกราคม 2564 ขณะที่ พ.ต.ท.วิชาญ ศรีบรรเทา สารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้าน ที่สร้างติดถนนและกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ในพื้นที่หมู่ 15 ต.หนองแจง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานไปยังหน่วยกู้ภัยสว่างบึงสามพันธรรมสถาน จุดหนองแจง และองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแจง ให้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำดับเพลิง มาช่วยควบคุมเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว โดยที่เกิดเหตุ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ตั้งอยู่เลขที่ 3/1 หมู่ 15 บ้านหนองยาว ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งสร้างด้วยไม้ทั้งหลังและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดและควบคุมเพลิง ไม่ให้โหมลุกไหม้ลุกลามไปติดบ้านที่อยู่ข้างเคียง โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ แต่ปรากฏว่า ไฟได้เผาไหม้รถจักรยานยนต์ 1 คัน คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ภายในบ้าน รวมทั้งบ้านหลังดังกล่าว ได้รับความเสียหายวอดไปทั้งหมด

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้น ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของ นายกรวิทย์ มาพร อายุ 48 ปี และนางหรรษา ฉัตรเงิน อายุ 36 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ต่างจังหวัด ส่วน น.ส.กัญญาพัชร มาพร อายุ 16 ปี ลูกสาวคนโต ก็ไปรับจ้างตัดอ้อยที่ ต.ซับบอน และพักอยู่บ้านเพื่อน มีเพียง ด.ช.เอกภพ มาพร อายุ 11 ปี ลูกชายคนเล็ก และ เพื่อนอีก 2 คน มานอนเฝ้าบ้าน แต่เนื่องจากลูกกุญแจบ้านลืมติดไปกับพี่สาว ทำให้ ด.ช.เอกภพ และเพื่อนเข้าบ้านไม่ได้จึงต้องนอนที่ระเบียงบ้าน

ด.ช.เอกภพ เล่าว่า ขณะที่นอนหลับอยู่กับเพื่อนตนรู้สึกปวดปัสสาวะจึงลุกไปปัสสาวะ พอเดินกลับมา เห็นไฟลุกไหม้ในบ้าน ตนและเพื่อนพยายามจะดับไฟ แต่หาช่องที่จะสาดน้ำดับไฟไม่ได้ จึงได้โทรบอกพ่อและพี่สาว

น.ส.กัญญาพัชร เล่าว่า ขณะเกิดไฟไหม้บ้าน ตนไม่อยู่บ้านไปพักอยู่บ้านเพื่อน เพราะต้องไปรับจ้างตัดอ้อยแต่เช้า ตอนที่น้องชายโทรบอกว่าไฟไหม้บ้าน ตนก็รีบขี่จักรยานยนต์มา แต่พอมาถึงพบว่าไฟไหม้บ้านหมดแล้ว ตนและครอบครัวไม่เหลืออะไรแม้กระทั่งเสื้อผ้า และเครื่องแบบนักเรียนรวมทั้งสัตว์เลี้ยง กระต่าย 1 ตัว แมว 1 ตัว ลูกเป็ด 8 ตัว ก็ถูกไฟไหม้

นางประกาย ภูลายยาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 บ้านหนองยาว กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า เกิดไฟไหม้บ้านหลังดังกล่าว ตนได้ประสานขอรถดับเพลิงจาก อบต.หนองแจง มาฉีดน้ำควบคุมเพลิง แต่เนี่องจากเป็นบ้านไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้บ้านถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลัง เบื้องต้นได้ให้ความช่วยเหลือให้ครอบครัวของนายกรวิทย์ พักอาศัยที่ศาลาอเนกประสงค์กลางหมู่บ้านชั่วคราวไปก่อน พร้อมทั้งมอบเงินจำนวน 5 พันบาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนหมู่บ้านมอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่มีหลายหน่วยงานนำข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องใช้สอย มามอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น ทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยมูลค่าความเสียหายยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากในช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบูรณ์ มาทำการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงให้แน่ชัดอีกครั้ง

ล่าสุดได้มีเพจเฟซบุ๊ค งานประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยการอาชีพวิเชียรบุรี เพชรบูรณ์ โพสต์ว่า เรียน ท่านผู้ใจบุญทุกท่าน ด้วยบ้านพักอาศัยของ น.ส.กัญญาพัชร มาพร นักเรียนแผนกการบัญชี ปวช.1 วิทยาลัยการอาชีพวิเชียรบุรี บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 15 บ้านหนองยาว ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ได้ประสบอัคคีภัย เสียหายทั้งหลังจากไฟฟ้าลัดวงจร เสื้อผ้า ชุดนักเรียน ตำรา ข้าวของเครื่องใช้เสียหานทั้งหมด จึงขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือน้อง ซึ่งพักอาศัยกับบิดา พี่ชาย น้องชาย บช. บจม.กรุงไทย สาขาวิเชียรบุรี เลขที่ 629-0-53608-7 ชื่อ น.ส.กัญญาพัชร มาพร

บุรฉัตร ศิริวัฒนาเกษม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดเพชรบูรณ์

#โปรดีๆ มีต่อเนื่อง ที่ลาซาด้า ไม่ซื้อได้ไง คลิ๊กเลย