นครบาลสันนิษฐาน 'มิคาโด๊ะ' อดีตแก๊งซิ่งค้ายาเสพติด มีเอี่ยว 'เคนมผง'

วันที่ 15 มกราคม 2564 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)ในฐานะ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล(โฆษก นครบาล) ระบุถึงความเชื่อมโยงของแก๊งมิคาโด๊ะกับยาเคนมผง ยาเคทะเลทราย หลังถูกเชื่อมโยงถึงความเกี่ยวข้องกันว่า จากการข่าวและประวัติการจับกุม พบว่าแก๊งนี้มีความเชื่อมโยงกับยาเสพติดจริง

โดยการเคลื่อนไหว ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2550 ก่อนทิ้งช่วงไประยะหนึ่ง ก่อนกลับมาเคล่ื่อนไหวอีกในช่วงปี 2554-2556 เริ่มจากพื้นที่ สน.โชคชัย ก่อนจะถูกกดดัน จนมีการย้ายไปอยู่บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน และย้ายไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ สน.สายไหม ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งค์นี้จะชื่นชอบการแข่งรถยนต์บนถนนสาธารณะ และค้ายาเสพติด ประเภทยาบ้าและยาเค โดยเครือข่ายของแก๊งนี้ มีลักษณะคล้ายแก๊งโอรส ที่ถูกตำรวจจับกุมไปก่อนหน้านี้ 

ปัจจุบัน เท่าที่มีข้อมูล แก๊งค์มิคาโด๊ะ มีระดับหัวหน้าอยู่ประมาณ 10 คน ซึ่ง กลุ่มหัวหน้าปัจจุบัน เป็นรุ่นที่ 3 ส่วนตัวนาย ต. ที่ปรากฏชื่อว่า เกี่ยวข้องกับยาเคนมผงที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล และตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือขณะนี้หลบหนีไปอยู่ที่ใด มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลให้การสนับสนุนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้

สำหรับผู้ที่ได้รับอันตรายจากการเหตุการณ์นี้ ต้องรอการตรวจสอบ ว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ หากพบว่ามีก็ต้องถูกดำเนินคดีในฐานความผิดเสพสิ่งเสพติด และต้องนำตัวมาสอบปากคำเพื่อหาความเชื่อมโยงของผู้ค้าต่างๆอีกด้วย 

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ระบุว่า นครบาลสามารถระบุตัวการและผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องกับเคนมผงและเคทะเลทรายแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และยอมรับว่ามีแก๊งค์รถซิ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ขอรวบรวมหลักฐานเพื่อความชัดเจนก่อน

ขณะที่ในการดำเนินการในคดีเคนมผงนี้ ไม่ได้มีการตั้งกรอบระยะเวลา หรือต้องตั้งคณะทำงานพิเศษ เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาดำเนินการอยู่ตามคำสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมฝากเตือนผู้ปกครองให้ช่วยแนะนำลูกหลาน ถึงโทษและอันตราย ต่อร่างกาย ของยาเสพติดทุกชนิดโดยเฉพาะประเภทนี้

นอกจากนี้ วันนี้ยังมีคณะกรรมาธิการตำรวจ ได้เดินทางเข้ามาประชุมร่วมติดตามความคืบหน้าของการระบาดของยาเคนมผง และเคทะเลทราย ซึ่งผลการหารือจะมีการเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงในวันที่ 21 มกราคม นี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลใช้ในการนำเข้าสภา เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญพอๆ กับการแพร่ระบาดของโควิด -19