ข่าว

พิพากษากลับยกฟ้องบก.FHMลงภาพข่าวหมิ่น“ลิซ่า”

พิพากษากลับยกฟ้องบก.FHMลงภาพข่าวหมิ่น“ลิซ่า”

21 ม.ค. 2553

ศาลอุทธรณ์พิพากษา กลับยกฟ้อง “บก.FHM” หมิ่นลงภาพข่าว“นักมายากล ลิซ่า” ชี้พฤติการณ์ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ขณะที่ข้อความไม่ใช่การยืนยันขอเท็จจริง แค่สมมุติเรื่องตั้งคำถาม

 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 21 ม.ค.  ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.2162/2548 ที่ น.ส.อุมา ไพบูลย์พันธ์ หรือลิซ่า ไปรพิศ นักมายากลสาวชื่อดัง เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายปกรณ์ ตันศิริ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณานิตยสาร FHM , บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนิตยสาร FHM , นายวิลักษณ์ โหลทอง , นายวรรคสร โหลทอง , นายพงษ์ศํกดิ์ ผลอนันต์ , นายยอดชาย ขันธะชวนะ และนายสานิต บูรณวิทยานนท์ กรรมการบริษัทฯ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1- 7 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 พร้อมกับเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท กรณีเมื่อเดือน มี.ค. 48 บ.อินสไพร์ฯ จำเลยที่ 2 ได้ตีพิมพ์ภาพของโจทก์และลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์

 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2549 ให้จำคุกนายปกรณ์ บก.นิตยสาร FHM จำเลยที่ 1 เป็นเวลา3 เดือนและปรับ 50,000 บาท พร้อมให้ลงข้อความขอโทษโจทก์ในนิตยสาร FHM ฉบับรายเดือน 1 ครั้ง แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 -7 ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์

 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าข้อความที่ผู้เขียน เขียนนั้นเพียงแต่สมมุติเรื่องราวขึ้นมาแล้วตั้งคำถาม กับให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้อ่าน รวมทั้งรับรองผลของการกระทำตามข้อเสนอแนะ ไม่ได้เป็นเรื่องราวที่มีอยู่หรือเกิดขึ้นจริง อีกทั้งไม่มีข้อความตอนใด ยืนยันข้อเท็จจริงว่า หญิงที่ใช้ชื่อว่า “ลิซ่า” แสดงมายากลบนเตียง โดยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทางเพศ จึงไม่อาจทำให้บุคคลโดยทั่วไปที่อ่านข้อความนั้นแล้วเข้าใจได้ว่าหญิงที่ชื่อว่า “ลิซ่า” รับบริการทางเพศแสดงมายากลบนเตียงตามที่โจทก์อ้างมาในฟ้อง

 การเขียนลงพิมพ์และโฆษณาดังกล่าว จึงไม่เป็นการกล่าวร้ายใส่ความหญิงที่ชื่อว่า “ลิซ่า” ต่อบุคคลที่ 3 จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ยังถือไม่ได้ว่า หญิงที่ใช้ชื่อว่า “ลิซ่า” เป็นผู้เสียหาย แม้หญิงดังกล่าว หมายความถึงโจทก์ ก็มิอาจกล่าวอ้างได้ว่า ตนเป็นผู้เสียหายเช่นกัน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม .28(2)  การอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 นอกจากนี้แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น