ข่าว

เปลี่ยนแผนล็อกสภา"ล้ม"สรรหา กสทช.

เปลี่ยนแผนล็อกสภา"ล้ม"สรรหา กสทช.

06 ม.ค. 2564

เร่งล้มกระบวนการสรรหา กสทช.ผู้มีอำนาจใกล้ชิดรัฐบาลแทรกแซง ส.ว.พร้อมถก 8 อรหันต์ รับร่าง พ.ร.บ. กสทช. ให้บอร์ดชุดเดิมนั่งบริหารต่ออีก 1 ปี

ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าคนใกล้ชิดรัฐบาลยังคงมีความพยายามที่จะล้มการสรรหา กสทช. เพียงเพื่อซื้อเวลาให้ผู้ใกล้ชิดบิ๊กรัฐบาลซึ่งถูกวางตัวให้เป็นประธานกสทช. แต่ว่าคุณสมบัติขัดต่อการเป็น กสทช.เนื่องจากปัจจุบันเป็นกรรมการขององค์กรรัฐวิสาหกิจผลิตไฟฟ้าซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตประเภทที่ 3 ของ กสทช. 

แม้ผู้มีอำนาจของฝ่ายบริหารไม่สามารถจะใช้มติของคณะรัฐมนตรีเพื่อล้มกระบวนการสรรหากสทช.ได้ เนื่องจากจะเป็นการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารแทรกแซงองค์กรอิสระซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ 

เหตุผลที่คนใกล้ชิดรัฐบาลยังคงมีความพยามที่จะล้มกระบวนการสรรหา พร้อมกับเปลี่ยนแผนใหม่โดยใช้อำนาจของวุฒิสภา ให้รีบลงมติให้รับกฎหมายฉบับใหม่ให้ผ่านเพื่อเป็นข้ออ้างให้ล้มกระบวนการสรรหาแล้วให้บอร์ดชุดเดิมรักษาการออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปีเพื่อให้ คนของ ต พ้นเงื่อนไขว่าต้องเว้นวรรคอย่างน้อย 1 ปี เพื่อที่จะสมัครได้ตาม พ.ร.บ.กสทชฉบับใหม่ เนื่องจากไม่ได้มีการแก้ไขเงื่อนไขเว้นวรรคอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจะทำให้บอร์ด กสทช ชุดปัจจุบันรักษาการไปเรื่อยและได้ต่ออายุรักษาการกรรมการ กสทช. มากว่า 3 ปีแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
งัด ม.44 ระงับสรรหา กสทช.จนกว่ามีกฎหมายใหม่

อย่างไรก็ตามได้มีการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่าระดับสูงว่า ผู้มีอำนาจของฝ่ายบริหารนาม ว.บริกรได้มีการแทรกแซง โดยมีการประสานงานกับ สว. บิ๊ก ย. ให้รีบนำร่าง พ.ร.บ.กสทช เข้าสู่ที่ประชุมกรรมาธิการวิสามัญอย่างเร่งรีบในวันจันทร์ที่  11 มกราคม พ.ศ. 2564 และนัด 8 สว. ผู้เตรียมแปรญัตติเครียร์ในชั้นประชุมนี้เพื่อให้วุฒิสภารับร่างพ.ร.บ. กสทช. โดยไม่ต้องมีการแปรญัตติใดๆ แม้ว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่สำคัญซึ่ง สว.หลายท่านได้อภิปรายในการประชุมสภาร่วมไว้ว่าไม่เห็นด้วยกับร่างพรบ.กสทช.ฉบับร่างของสส.อยู่หลายประเด็น  

ทั้งนี้วุฒิสภา ลงมติรับหลักการแห่งร่าง พ.ร.บ.กสทช. ที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นชอบ แม้จะลงมติรับ แต่ในสาระยังมีข้อขัดแย้ง ที่ส่อแววว่า จะไม่ยอมเห็นชอบเนื้อหา เพราะมีจุดอ่อนที่อาจทำให้เกิดปัญหา การประชุมวุฒิสภา ช่วงเย็น เมื่อ 8 ธันวาคม 2563 วาระพิจารณา “ร่างพระราชบัญญัติ องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่...) พ.ศ....   หรือ พ.ร.บ.กสทช.  ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติผ่านการพิจารณา แม้ว่า วุฒิสภา จะลงมติรับหลักการ ด้วยเสียง 159 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียงและงดออกเสียง 3 เสียง แต่ในรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.กสทช. นั้นมีข้อท้วงติงจากส.ว. อย่างน้อย  3 ประเด็นหลักๆ คือ 1. สเปคของ “กรรมการ กสทช.” ทั้ง 7 คนที่ 4 ใน 7 กำหนดให้มาจาก ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 1 คน , ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน 1 คน, ด้านอื่นๆ  2 คน  ซึ่ง  พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์. ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม (ไอซีที) ที่วุฒิสภามอบหมายให้ศึกษา อภิปรายในข้อสังเกตว่า  

“เปิดช่องให้ กรรมการสรรหาพิจารณาไม่รอบคอบ ไม่ถ่องแท้ และเสนอให้ปรับ คุณสมบัติใน 4 กสทช. นั้นมาจาก 6 ด้าน คือ  ด้านดาวเทียม, ด้านสื่อสาธารณะ, ด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และ คุ้มครองผู้บริโภค, ด้านเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ, ด้านกฎหมายมหาชน และ ด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ”  
“หากกรรมการกสทช.ไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย  การเจรจา ต่อรอง ด้านคลื่นความถี่ ดาวเทียม กฎหมายระบบเทคโนโลยี อาจเสียเปรียบเอกชน ขณะที่ด้านเศรษฐศาสตร์นั้น จำเป็น เพราะการนำคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติชาติต้องดูเรื่องคุ้มค่าการให้ประโยชน์กับประชาชน ผู้รับบริการ มากที่สุด" 

 

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน  สิทธิเสรีภาพและคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา  กล่าวว่า พ.ร.บ.กสทช. ปี 2553 ซึ่งกำหนดคุณสมบัติไว้ 7 ด้าน ซึ่งร่างที่สภาฯ แก้ไขและตัดออก ทั้ง ด้านวิศวกรรม, ด้านเศรษฐศาสตร์, ด้านกฎหมาย นั้นล้วนมีเหตุผลและที่มาที่ไป “หากกรรมการกสทช. ไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรม ด้านกฎหมาย  การเจรจา ต่อรอง ด้านคลื่นความถี่ ดาวเทียม กฎหมายระบบเทคโนโลยี อาจเสียเปรียบเอกชน ขณะที่ด้านเศรษฐศาสตร์นั้น จำเป็น เพราะการนำคลื่นความถี่ซึ่งเป็นสมบัติชาติต้องดูเรื่องคุ้มค่าการให้ประโยชน์กับประชาชน ผู้รับบริการ มากที่สุด" นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนร่างที่แก้ไข และกำหนดว่า ให้เป็น ด้านอื่นๆ นั้น กังวลว่าจะเปิดช่องให้นอมินีพรรคการเมือง, นายทุนบริษัทโทรคมนาคมเข้ามา และเกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวง พร้อมทั้งเสนอให้ พิจารณาแก้ไข  ในชั้นของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้เพื่อความรอบคอบทั้งประเด็นคุณสมบัติ และประเด็นที่ว่าด้วยการให้สรรหา กสทช. ชุดใหม่ เมื่อกฎหมายใหม่บังคับใช้ เพื่อไม่ให้กฎหมายเดินหน้า และกระบวนการพิจารณาของกสทช. ไม่มีปัญหา 

 ดังนั้นหากสว.ผู้ทรงเกีรยติ ยอมให้ร่างพรบ.กสทช.ฉบับร่างของสส.ผ่านโดยมิได้มีการแปรญญัติและพิจารณาทุกประเด็นที่ยังเป็นปัญหาเพียงเพื่อล้มกระบวนการสรรหาที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ย่อมถือว่าเป็นตราบาปและทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อกิจการกระจายเสียง กิจการการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและอาจขัดรัฐธรรมนูญที่ปล่อยให้ฝ่ายบริหารสั่งนิติบัญญัติได้...ส.ว.ทั้งหลายโปรดตระหนัก