"สมุทรสาคร" ลุยตรวจโควิด-19 เชิงรุก ในโรงงาน เผยขนาดใหญ่มีร่วม100แห่ง

วันนี้(6 มกราคม) ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 365 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 250 ราย ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจากการคัดกรองเชิงรุก 99 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค(Quarantine) 16 ราย รวมสะสม 9,331 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,249 ราย รักษาหายแล้ว 4,418 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน สะสมที่ 66 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 63 ปี อาชีพขับรถรับส่งแรงงานประเทศเพื่อนบ้านในจ.สมุทรสาคร โดยมีภูมิลำเนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 มีอาการป่วยด้วยไข้ ไอ และมีน้ำมูก เข้ารักษาที่โรงพยาบาล(รพ.) ในสมุทรสาคร พบว่าออกซิเจนในเลือดเหลือเพียง 76% และอาการปอดอักเสบ หลังจากนั้นตรวจพบติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม มีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ และย้ายเข้ารักษาในห้องไอซียู เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม อาการไม่ดีขึ้น และมีอาการไตวาย จึงทำการฟอกเลือดทุกวันจนกระทั่งวันที่ 5 มกราคม หัวใจหยุดเต้น แม้ว่าทำการช่วยฟื้นคืนชีพแต่ไม่ตอบสนองต่อการรักษา และ เสียชีวิตด้วยระบบหายใจและอวัยะภายในหลายส่วนล้มเหลว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ 365 ราย แยกเป็น 1.กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้า 215 ราย พบใน สมุทรสงคราม 1 ราย กรุงเทพมหานคร(กทม.) 28 ราย ราชบุรี 4 ราย สมุทรสาคร 20 ราย สมุทรปราการ 34 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย อยุธยา 2 ราย ลพบุรี 3 ราย ชลบุรี 70 ราย จันทบุรี 28 ราย กาญจนบุรี 2 ราย นครปฐม 2 ราย ปทุมธานี 3 ราย นนทบุรี 2 ราย พิจิตร 2 ราย ฉะเชิงเทรา 2 ราย เชียงใหม่ 1 ราย นครราชสีมา 2 ราย ระยอง 4 ราย สุรินท์ 2 ราย และสุราษฎร์ธานี 2 ราย

2.กลุ่มอยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพิ่มเติม 35 ราย พบใน ตราด 1 ราย ราชบุรี 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย กทม. 5 ราย ชลบุรี 6 ราย ระยอง 10 ราย สมุทรปราการ 10 ราย และปทุมธานี 1 ราย 3.การติดเชื้อในกลุ่มแรงงานข้ามชาติจากการค้นหาเชิงรุก 99 ราย พบใน สมุทรสาคร 47 ราย ระยอง 30 ราย ชลบุรี 4 ราย จันทบุรี 7 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย ปราจีนบุรี 5 ราย และตราด 5 ราย และ 3.ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 16 ราย ได้แก่ เอธิโอเปีย 2 ราย ตรุกี 2 ราย เยอรมนี 2 ราย แคนาดา 1 ราย อิสราเอล 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย และสหรัฐอเมริกา 6 ราย

"ภาพรวมของผู้ป่วยรายใหม่ยังเพิ่มขึ้น หากกราฟมีความชันมาก หมายถึงก็จะมีผู้ป่วยอาการหนักมากขึ้น การใช้ รพ.ต่างๆ มากขึ้น หากเราพยายามกดประคองให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ที่ 2-3 หลัก ก็จะมีความเพียงพอต่อการใช้ทรัพยากรดูแล อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยคยอยู่ในจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่าครึ่งหมื่นแต่ตอนนี้อยู่ใกล้ๆ หมื่นรายแล้ว ขณะที่สถานการณ์ในสหรัฐอเมริกา ไม่นำผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้แล้วเข้ารักษา รพ. เป็นภาพที่ไม่ค่อยดีคือมีการเสียชีวิตที่บ้าน เพราะเอาเข้า รพ. ก็ไม่สามารถรักษาได้ก็ต้องปล่อยให้เสียชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นแล้วในประเทศที่มีภาพความเจริญแล้ว และอย่าให้เกิดภาพนี้ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างจากคนอื่น และการคุมโรคจะเกิดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายร่วมมือกัน"นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของจ.สมุทรสาคร จากที่ช่วง20ธ.ค.2563มีพื้นที่สีแดงเข้มที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่กี่พื้นที่ จนเมื่อ 4 ม.ค.2564พบพื้นที่สีแดงเข้มกระจายตัวมากขึ้น จึงมีการดำเนินการพุ่งเป้าไปที่โรงงาน เนื่องจากสมุทรสาครเป็นกำลังผลิตหลักของอุตสาหกรรมอาหารทะเลมีโรงงานต่างๆมากมาย แยกเป็นขนาดโรงงาน 1-200 คน 11,302 แห่ง ขนาด 201-500 คน 276 แห่ง แต่ที่ขนาดคนมาก 500-5,001 คนขึ้นไป ถึง 100 แห่ง นอกจากนี้ จะคัดกรองเชิงรุกในตลาดต่างๆและสถานที่พักในจังหวัดด้วย ซึ่งกำลังดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อในจ.สมุทรสาครจะรายงานเข้ามาเป็นระยะๆ