ข่าว

"แรมโบ้" ซัด "พิธา"ปิดประชุมเป็นของสภาพิจารณาไม่ใช่เรื่องนายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"แรมโบ้" ซัด "พิธา"ปิดประชุมเป็นของสภาพิจารณาไม่ใช่เรื่องนายกฯ ยืนยัน นายกฯไม่เคยปัดความรับผิดชอบ และที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อหามาตรการต่างๆช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะเดียวกันขอ "พิธา" ห่วงสุขภาพเพื่อนสมาชิกสภาฯด้วย

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่นายกฯไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดตัวเอง รัฐบาลต้องการมีอำนาจแต่ไม่ต้องการรับผิดชอบ แก้ปัญหาผิดทิศผิดทาง ผิดซ้ำซาก และค้านปิดสภาฯ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19  มาถูกทางแล้ว ไม่เช่นนั้นการระบาดครั้งที่ผ่านมาจะไม่สามารถคลี่คลายลงได้ และการระบาดครั้งนี้นายกฯได้ใช้ประสบการณ์จากครั้งที่แล้วในการออกมาตรการต่างๆ และนายกฯยังเข้าใจสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นอย่างดีเพื่อให้ไม่กระทบกับผู้ประกอบการ ด้วยการที่ยังไม่ล็อกดาวน์ประเทศ  

พร้อมยืนยันว่านายกฯและรัฐาลไม่เคยปัดความรับผิดชอบ โดยนายกฯยังได้สั่งตรวจสอบขบวนการลักลอบแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองแล้ว พร้อมให้ดำเนินการปราบปรามบ่อนการพนันอย่างเข้มงวด และให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ นอกจากนี้ยังยืนยันว่านายกฯมีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน และผู้ประกอบการต่างๆ ไม่เคยทอดทิ้ง  

และการที่ยังต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินนั้น เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ในช่วงที่รอให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ ฉบับปรับปรุงแก้ไข ซึ่งเชื่อว่าประชาชนก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หรือเว้นแต่ผู้ที่อยากจะทำผิด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน อยากให้มีการชุมนุมเท่านั้น ที่อยากให้ยกเลิกในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤตโควิดเช่นนี้

ส่วนที่นายพิธาไม่เห็นด้วยกับการปิดประชุมสภาฯนั้น การปิดสภา ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯสภาก็หารือกันเองมิใช่หรือ นายกฯไม่ได้ไปสั่งการอะไร ตนเองมองว่านายพิธาคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ สถานการณ์เช่นนี้ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคให้มากที่สุด อยากให้นายพิธามองเห็นถึงสุขภาพของเพื่อนสมาชิกสภาฯด้วย มากกว่าจะมาคิดเรื่องของการเมือง

" ความเป็นฝ่ายค้าน ต้องค้านอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานตรรกะความเป็นจริง มิใช่นั่งเทียนแล้วพูดเดาอย่างไร้เหตุผล เพียงหวังการตีกินทางการเมืองโดยเอาความเดือดร้อนของประชาชนมาหากินทางการเมือง นักการเมืองสไตล์นี้จบเส้นทางการเมืองมาหลายรายแล้ว ตนจึงอยากเห็นนายพิธา จะเป็นตัวอย่างที่ดีในสายตาประชาชน แต่ถ้าเล่นการเมืองแบบเดิม โจมตีกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี ในที่สุดความเสื่อมศรัทธาจะตามมา พรรคก้าวไกล จะกลายเป็นพรรคก้าวถอยหลังลงคลองในสายตาประชาชนอย่างแน่นอน" นายสุภรณ์ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ