สตรีเอเชียในวอชิงตันสู้ขาดใจจนเจ็บตัว ลูกค้าทำเล็บไม่ยอมจ่าย เตรียมชิ่งหนีดื้อๆเลย(คลิป)

เหตุเกิดที่ร้านทำเล็บชื่อ บลู เบลล์ ที่ถนน  700 O  เขตนอร์ทเวสต์ กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา ลูกค้าสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกันเข้าไปใช้บริการทำเล็บมือ-เล็บเท้า ตกแต่งเล็บและนวด รวมค่าบริการสองคน 208 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,200 บาท)  ไรอัน คิม ผู้จัดการและจ้าของร้าน บอกสถานี WUSA9 ว่า หลังจากแม่ของเขา ซึ่งเป็นเจ้าของร้านร่วมกัน เรียกเก็บค่าบริการ แต่บัตรเครดิตรูดไม่ผ่านหลายครั้ง จึงขอให้ชำระรูปแบบอื่น ลูกค้าอ้างว่าต้องไปถอนเงินจากธนาคารใกล้ๆ สตรีคนหนึ่งออกไปก่อน ส่วนสตรีอีกคน ทางร้านขอให้ทิ้งกระเป๋าไว้ที่ร้านเพื่อความมั่นใจ แต่เธอทำท่าไม่ยอมและเริ่มฉุนเฉียว บ่นว่าร้านนี้ บริการไม่ดี เครื่องรูดบัตรเสียเอง และพยายามจะออกจากร้านไปอีกคน ลูกจ้างในร้านโทรเรียกตำรวจและล็อกประตู  เมื่อลูกค้าพยายามจะออก จึงเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกับจีน 
 

คลิปจากกล้องวงจรปิดและจากโทรศัพท์มือถือ แสดงให้เห็น สตรีเจ้าของร้านถูกผลักหลายหน ถูกตีที่หน้าและโดนศอก จนล้มกับพื้น จนได้รับบาดเจ็บกระดูกมือร้าวและฟกช้ำหลายแห่ง ตำรวจวอชิงตัน ดีซี เปิดสอบสวนแล้ว 
ไรอัน คิม ลูกชาย  ซึ่งไม่ได้อยู่ด้วยขณะเกิดเหตุ  กล่าวว่า เขารู้สึกใจสลาย แม่ของเขาทำงานหนักมากและอยู่ในชุมชนนี้มานาน 6 ปี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนีัมาก่อน เขาบอกแม่ว่าถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนี้อีกขอให้ปล่อยลูกค้าไป เพราะชีวิตของเธอสำคัญกว่า 

แต่ในเรื่องร้ายก็มีเรื่องดี  คนใจดีรายหนึ่งผ่านมาเจอ สอบถามจนมั่นใจว่าเจ้าของร้านไม่ได้เป็นอะไรมาก ก่อนจ่ายเงินแทนแล้วบอกให้ลูกค้าไปจากตรงนั้น  คิม กล่าวว่า โควิด-19 กระทบธุรกิจสาหัสมาก รายได้หดหาย 66% เมื่อเทียบกับปี 2562 ดังนั้น ทุกดอลลาร์มีความหมาย  มาเกิดเรื่องแบบนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกแย่ แต่ท่ามกลางเรื่องแย่ๆ มีคนมากมายที่หยิบยื่นน้ำใจในยามวิกฤติแม้ไม่รู้จักกัน น้ำใจของจากคนแปลกหน้าช่วยให้ยังศรัทธาในความเป็นมนุษย์  แต่คิมยังไม่ได้ทันได้ขอบคุณและไม่รู้ว่าเป็นใคร พลเมืองดีคนดังกล่าววางเงินไว้แล้วก็จากไปเช่นกัน ในคลิปไม่เห็นหน้า แต่ได้ยินเสียงว่า “โอเค ผมจ่ายให้เอง” 

ล่าสุด ฟอกซ์ นิวส์ รายงานเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่า พลเมืองดีคือ  อัลเบิร์ต คูมบส์ ทันตแพทย์ หลังจากเพื่อนร่วมงานดูข่าวแล้วจำเสียงของเขาได้ แต่เจ้าตัวไม่ได้ต้องการคำขอบคุณ แค่ทุกคนปลอดภัยก็เป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

หมอคูมบส์กำลังเดินกลับไปทำงานพบเห็นเหตุการณ์ ถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ยื่นให้ 200 ดอลลาร์แบบไม่ลังเล เขาแค่คิดว่า ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับคนจำนวนมาก และแสดงออกแบบจนตรอกในรูปแบบต่างๆกันไป เขาคิดแค่ว่าไม่อยากให้ใครถูกจับกุม ตาย บาดเจ็บหรือติดโควิด-19 เพราะเงิน 200 ดอลลาร์