
เขมรจับตาไทยปฏิเสธให้"ทักษิณ"เป็นฐานล้มรบ.
โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาปฏิเสธให้ทักษิณใช้ประเทศเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนไหวไล่รัฐบาลไทย ชี้เกาะติดสถานการณ์การเคลื่อนไหวแบบแตกหักของเสื้อแดงอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งกองทัพเตรียมพร้อมรับมือเต็มพิกัด ขณะที่ทหารกัมพูชาชี้ไทยเสริมกำลังตามแนวชายแดนผิดปกติเหมือ
น.ส.พ.รัศมีกัมพูชา (เรียะซะเม็ย กัมปูเจีย) เปิดเผยคำให้สัมภาษณ์ ของนายกุย กวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อบ่ายวันที่ 18 ม.ค.ว่า ประเทศกัมพูชาได้ติดตามความเคลื่อนไหวของประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงกำลังชุมนุม เคลื่อนไหวเพื่อทำสงครามขั้นแตกหักในการโค่นล้มรัฐบาลไทยชุดปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังอ้างคำกล่าวของ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะใช้ประเทศเพื่อนบ้านประเทศหนึ่งเป็นฐานบัญชาการเพื่อโจมตีรัฐบาลไทยโดยพุ่งเป้ามาที่ประเทศกัมพูชา เหมือนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวมาแล้ว ซึ่งคำกล่าวของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นความพยายามนำเอาประเทศกัมพูชาเข้าสู่ปัญหาพิพาทที่อาจจะนำไปสู่ความรุนแรง ตามคำกล่าวอ้าง ซึ่งนายกุย กวง ได้ปฏิเสธต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว ว่า กัมพูชาไม่เคยมอบดินแดนให้ใครใช้เป็นฐานบัญชาการโจมตีรัฐบาลประเทศอื่นเลย การกล่าวอ้างอย่างนั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง และยังแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของรัฐบาลไทยที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
“สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยขณะนี้กำลังเริ่มต้นย่างเข้าสู่สงครามขั้นแตกหัก ดังนั้นกัมพูชาจึงได้สั่งการให้กองทัพเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูงยิ่งตามแนวชายแดนในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
น.ส.พ.ฉบับเดียวกัน ยังอ้างการให้สัมภาษณ์ ของ พล.ต.ซะรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชา - ไทยขณะนี้ยังคงปกติธรรมดา แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ทหารไทยมีการเสริมกำลังพลและสรรพาวุธจำนวนมากเข้ามาประชิดแนวชายแดนมากขึ้น ซึ่งเป็นห้วงเวลาเดียวกันกับสถานการณ์ทางการเมืองที่รัฐบาลไทยหาทางออกให้กับปัญหาต่าง ๆยังไม่ได้
พล.ต. ซะรัย ดึ๊ก ระบุว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมาตนได้พบหารือเรื่องนี้กับทหารฝ่ายไทยตรงบริเวณปราสาทพระวิหาร ทราบว่า การเสริมกำลังพลเข้าประชิดชายแดนนั้นก็เพื่อป้องกันทหารและประชาชนไม่ให้เข้ามาตัดไม้ทำลายป่า แต่ลักษณะของการ เคลื่อนไหวดังกล่าวแล้วนั้น ทหารไทยยังได้ลำเลียงอาวุธและเสบียงจำนวนมากเข้ามายังแนวชายแดน เหมือนเตรียมพร้อมจะสู้รบอย่างไรอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตามกองทัพกัมพูชาจะยึดมั่นจุดยืนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน