ข่าว

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. เอาผิดแก๊งขนแรงงานเถื่อน

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. เอาผิดแก๊งขนแรงงานเถื่อน

28 ธ.ค. 2563

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. เอาผิดขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน เป็นข้าราชการระดับสูง อ้างส่งเงินให้รองนายกรัฐมนตรี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ธันวาคม ที่ บก.ปปป.นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานกรณีทุจริตรับสินบน ขบวนการลักลอบนำเข้า แรงงานต่างด้าวจากจังหวัดกาญจนบุรี มายังจังหวัดสมุทรสาคร ยื่นต่อพล.ต.ต.จรูญเกียรตื ปานแก้ว ผบก.ปปป. 

 

 

เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ฐานเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา157 โดยมีพ.ต.อ.สมศักดิ์ เนียมเล็ก ผกก.5 บก.ปปป เป็นตัวแทนรับมอบ

 

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า การเข้าร้องทุกข์วันนี้จะเปิดโปงรายชื่อตำรวจและฝ่ายปกครองจำนวน 10 คนมีตั้งแต่ระดับล่าง ถึง ระดับสูง ซึ่งทำเป้าขบวนการยาวนานกว่า 1 ปี โดยล็อตแรกที่ดำเนินการเอาผิด

จะเอาผิดผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีและพวกจำนวน 10 ราย แล้วจะทยอยเอาผิดข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมหลังจากปีใหม่นี้ที่จะเป็นระดับจังหวัด ทหาร และฝ่ายปกครอง ซึ่งการนำข้อมูลยื่นต่อเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมมีพยานหลักฐานที่มีความผิดชัดเจน โดยเฉพาะรายชื่อของนายหน้าจะมีประมาณกว่า 100 คน ซึ่งเป็นนายหน้าในจังหวัดกาญจนบุรีที่แอบลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ รวมทั้งแผนผังความเกี่ยวข้อง. ตลอดจนเส้นทางการเงินของขบวนการนี้

 

โดยในรายของผู้บังคับการจังหวัด ก็จะดำเนินการเอาผิดในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยประละเลยให้มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ อีกทั้งปล่อยให้มีการลักลอบนำรถออกไปทางชายแดนโดยผิดกฎหมาย รวมทั้ง ปล่อยให้มีการลักลอบยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งในส่วนนี้จะทราบหรือไม่ ก็ไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องมีเพียงการสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาเท่านั้น

 

สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ทำมานานกว่า 1 ปี โดยจะมีนายหน้าจากฝั่งไทยและฝั่งพม่า นำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็นอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งมีค่าดำเนินการอยู่ที่รายละ 10000-15000 บาท  และเมื่อเข้ามาแล้วจะมีการเสียรายเดือนให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฉลี่ยรายละ500-1000 บาท ทั้งนี้ขบวนการดังกล่าวยังมีการอ้างว่าเงินที่ได้จากการลักลอบขนแรงงานแต่ละครั้งจะนำไปให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อเป็นการวิ่งเต้น ให้สามารถคงตำแหน่งในพื้นที่ไว้ได้ ซึ่งจากข้อมูลยังพบอีกว่ามีการขนแรงงานตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ 3 เดือน และ จนปัจจุบันนี้ก็ยังมีการลักลอบขนอยู่ นอกจากนี้ในพื้นที่ยังพบการกระทำผิดอื่นๆ เช่น การลักลอบขนรถผิดกฎหมายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยาเสพติด และ สินค้าหนีภาษี

 

พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะสอบปากคำ และ ใช้ระยะพิจารณาข้อมูลรวบรวมพยานหลักฐานภายใน 30 วัน ก่อนจะส่งข้อมูลให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป