ข่าว

ผวาระบาดหนักป่วยทุบสถิติ คุมเข้มสกัด - วิจัย โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ระบาดหนัก สหราชอาณาจักร ป่วยเพิ่มทุบสถิติ อินเดียผวาเจอเคสจากลอนดอน ยุโรปคุมเข้มสกัด - นิวยอร์กเริ่มวิจัย โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์

สถิติจากทางการสหราชอาณาจักร ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร (22 ธันวาคม 2563) ระบุว่า สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวก เพิ่ม 36,804 ราย พุ่งสูงทำสถิติใหม่เมื่อนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ในประเทศ ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,110,314 ราย

ข้อมูล ระบุว่า มีผู้ป่วยเสียชีวิตหลังมีผลตรวจเป็นบวก 28 วัน เพิ่มขึ้น 691 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตของสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 68,307 ราย โดยสหราชอาณาจักรเปิดเผยสถิติข้างต้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเมื่อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีอัตราการติดเชื้อสูงขึ้นถึงราวร้อยละ 70

 

หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน รายงานว่า สหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ หลายพันรายทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่ชนิดกลายพันธุ์ได้แพร่ระบาดออกจากพื้นที่ที่มีการบังคับใช้ข้อจำกัดระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับที่มีความเข้มงวดสูงสุดแล้ว

“เชื้อสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ใช้ข้อจำกัดระดับ 4 เท่านั้น” นักพันธุศาสตร์สถิติที่ศึกษาเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ณ สถาบันเวลล์คัม ทรัสต์ แซนเจอร์ ใกล้เมืองเคมบริดจ์ ดร. เจฟฟรีย์ แบร์เรตต์ แสดงความคิดเห็น

ปัจจุบันมากกว่า 40 ประเทศ บังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ด้วยความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยฝรั่งเศสปิดชายแดนกับสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ไม่เปิดรับรถบรรทุกหรือเรือโดยสารที่ออกจากท่าเรือโดเวอร์ แต่ทั้งสองฝ่ายวางแผนทำข้อตกลงกลับมาเปิดเส้นทางสัญจรอีกครั้งในช่วงเย็นวันอังคาร (22 ธ.ค.)

 

เมื่อวันเสาร์ (19 ธ.ค.) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร บอริส จอห์นสัน ประกาศข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 ระดับ 4 สำหรับกรุงลอนดอนและพื้นที่ส่วนอื่นของอังกฤษ เพื่อต่อสู้กับยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ชนิดกลายพันธุ์ ที่พุ่งสูง โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แมตต์ แฮนค็อก กล่าวเตือนว่า สหราชอาณาจักร “ไม่สามารถควบคุม” การแพร่ระบาดของเชื้อชนิดกลายพันธุ์นี้ได้

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้โดยสารหญิงในท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ชายหญิงคู่หนึ่งกอดร่ำลากันนอกพื้นที่ผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนต่อแถวเข้าสู่พื้นที่ผู้โดยสารขาออกในท่าอากาศยานฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

อินเดีย ผวา โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ หลังพบผู้ป่วยจากลอนดอน

 

สื่อท้องถิ่นอินเดียรายงานเมื่อวันอังคาร (22 ธ.ค.) ว่า อินเดียตรวจพบผู้โดยสาร 5 คน ที่เดินทางจากกรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร มายังกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวก ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ชนิดกลายพันธุ์

รายงาน ระบุว่า ผู้โดยสารกลุ่มนี้ที่เข้ารับการตรวจโรคโควิด-19 ทันทีที่เดินทางถึงนิวเดลี เป็นส่วนหนึ่งของผู้โดยสาร 266 คน บนเที่ยวบินของสายการบินแอร์ อินเดีย (Air India) เมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เผยว่า “ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจของพวกเขาถูกส่งไปวิจัยที่ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ โดยทั้งหมดถูกส่งตัวเข้าศูนย์ดูแลผู้ป่วยแล้ว”

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้โดยสารสวมชุดป้องกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย วันที่ 25 พ.ค. 2020)

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินเดียตัดสินใจระงับให้บริการเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันพุธ (23 ธ.ค.) จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. หลังมีรายงานการตรวจพบโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์

ทางการอินเดียยังประกาศมาตรการเฝ้าระวังโรคโควิด-19 ซึ่งบังคับให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรในทุกเที่ยวบิน เข้ารับการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับ (RT-PCR) ทันทีที่เดินทางถึงท่าอากาศยานด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานว่า ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอินเดียรวมอยู่ที่ 10,075,116 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 146,111 ราย เมื่อนับถึงเช้าวันอังคาร (22 ธ.ค.) โดยอินเดียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

 

ยุโรปคุมเข้ม สกัด โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ จากสหราชอาณาจักร

 

โรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ถูกตรวจพบครั้งแรกช่วงเดือนตุลาคมในสหราชอาณาจักรภายใต้ชื่อ “SARS-CoV-2 VUI-202012/01” ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สร้างความตื่นตระหนกให้หลายฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร บอริส จอห์นสัน ประกาศข้อจำกัดระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกรุงลอนดอน พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกของอังกฤษ กำหนดให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านพร้อมข้อยกเว้นน้อยลง รวมถึงกระตุ้นประชาชนทำงานจากบ้านและระงับการเดินทางเข้า - ออกพื้นที่ที่ใช้ข้อจำกัดระดับ 4

 

ด้าน รัฐบาลฝรั่งเศส สั่งปิดชายแดนที่ติดกับสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงคืนวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) พร้อมระงับการเดินทางเข้า - ออกสหราชอาณาจักรอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะ “ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางถนน อากาศ ทางทะเล และรถไฟ” ทว่า จอห์นสัน กล่าวเมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.) ว่า สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสกำลังหารือเปิดเส้นทางการค้าหลายช่องทางโดยเร็วที่สุด

กระทรวงคมนาคมของเยอรมนี ประกาศระงับเที่ยวบินขาเข้าจากสหราชอาณาจักรทั้งหมดจนถึงสิ้นปี ยกเว้นลูกเรือชาวเยอรมันที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ เที่ยวบินที่มีแต่พัสดุหรือสินค้า เที่ยวบินเปล่า และเที่ยวบินที่บรรทุกบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

 

สวีเดนประกาศปิดชายแดนที่ติดกับเดนมาร์กตั้งแต่วันจันทร์ (21 ธ.ค.) หลังจากตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ พร้อมระงับการเดินทางระหว่างประเทศกับสหราชอาณาจักร หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร แมตต์ แฮนค็อก กล่าวเตือนว่า สหราชอาณาจักร “ไม่สามารถควบคุม” การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์

นายกรัฐมนตรีโครเอเชีย อันเดรย์ เพลนกอวิช เผยผ่านทวิตเตอร์ เมื่อเย็นวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) ว่า “โครเอเชียระงับเที่ยวบินโดยสารจากสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 48 ชั่วโมง จนกว่าเราจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่อย่างละเอียดกว่านี้”

 

รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจประกาศระงับการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติที่มาจากสหราชอาณาจักร พร้อมระงับเที่ยวบินระหว่างสองประเทศเมื่อเที่ยงคืนวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. เป็นต้นไปจะต้องกักกันตัวเป็นเวลา 10 วัน

สหภาพยุโรปอนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ - ไบออนเทค เมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.) ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) แสดงความเห็นเชิงบวกต่อวัคซีนดังกล่าว ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์

 

ผู้นำองค์การฯ เอเมอร์ คุก แถลงข่าวออนไลน์ว่า องค์การฯ ประเมินวัคซีนในแง่บวกโดยอ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากการทดลองทางคลินิกกว่า 40,000 ครั้ง วัคซีนตัวนี้สามารถฉีดให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ขึ้นไปได้ พร้อมเสริมว่ายังไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าวัคซีนตัวนี้ไม่สามารถต้านเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่

หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดร. ซูมยา สวามินาธาน แถลงข่าวว่า “เราเห็นความเปลี่ยนแปลงและการกลายพันธุ์หลายครั้ง แต่จนถึงปัจจุบันมันยังไม่ส่งผลกระทบต่อความร้ายแรงของเชื้อไวรัส วิธีการรักษา ยา หรือวัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนานัก” พร้อมย้ำความสำคัญของการเฝ้าสังเกตความเป็นไปของเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการลดอัตราการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด

กรรมการบริหารของโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งองค์การอนามัยโลก ดร. ไมก์ ไรอัน ระบุว่า แม้สหราชอาณาจักรพบโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ “แต่ไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่ามันมีความร้ายแรงยิ่งขึ้น”

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : สถานีรถไฟนานาชาติเซนต์ แพนครัส ในกรุงลอนดอน เมืองหลวงของสหราชอาณาจักร วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านร้านคาเฟ่ เล ดู แมโกต์ ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส วันที่ 16 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ป้ายนำทางไปยังศูนย์ตรวจโรคโควิด-19 ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี วันที่ 16 ธ.ค. 2020)

 

นิวยอร์กเริ่มวิจัย โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ที่พบในสหราชอาณาจักร

รัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ห้องปฏิบัติการวัดส์เวิร์ธ (Wadsworth) ในเมืองอัลบานี เริ่มต้นวิจัยเชิงรุกเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ ที่แพร่ระบาดได้ง่าย ซึ่งถูกตรวจพบในสหราชอาณาจักร

ห้องปฏิบัติการดังกล่าวมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าศูนย์วัดส์เวิร์ธ (Wadsworth Center) เป็นห้องปฏิบัติการด้านสาธารณสุขที่เน้นการวิจัย สังกัดกระทรวงสาธารณสุขแห่งรัฐนิวยอร์ก โดยปัจจุบันมีการตรวจสอบลำดับทางพันธุกรรมของไวรัสที่พบในนิวยอร์กมากกว่า 3,700 รายการ แต่ยังไม่พบสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์อยู่ในตัวอย่างใดๆ

 

ศูนย์วัดส์เวิร์ธ และ กระทรวงฯ ทำข้อตกลงร่วมกับโรงพยาบาลท้องถิ่น 6 แห่ง เพื่อขอรับตัวอย่างเพิ่มเติมและกำลังเจรจากับโรงพยาบาลอื่นๆ เพื่อดำเนินการลักษณะเดียวกัน

โรงพยาบาลทั้งหกแห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลมอนเตฟิออเร (Montefiore) ศูนย์มะเร็งเมโมเรียล สโลน เคทเทอริง (Memorial Sloan Kettering) โรงพยาบาลนอร์ธเวลล์ ลอง ไอส์แลนด์ (Northwell Long Island) โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งโรเชสเตอร์ (University of Rochester) ศูนย์การแพทย์อัลบานี (Albany Medical Center) และโรงพยาบาลซาราโทกา (Saratoga Hospital)

“ผมต้องการทราบ หากเชื้อที่กลายพันธุ์อยู่ที่นี่ เพราะนั่นจะเป็นปัญหา ตอนนี้นิวยอร์กกำลังติดต่อโรงพยาบาลทั่วรัฐเพื่อทดสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะ” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คัวโม กล่าว

 

คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวเมื่อวันจันทร์ (21 ธ.ค.) ว่า แม้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ที่อยู่เบื้องหลังการระบาดของโรคโควิด-19 จะกลายพันธุ์หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีสายพันธุ์ไหน รวมถึงสายพันธุ์ย่อยล่าสุดที่พบในสหราชอาณาจักร ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในด้านความไวของไวรัสต่อการบำบัดรักษาและยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือวัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

ขณะเดียวกัน คัวโม ประกาศว่า ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั่วนิวยอร์ก จำนวน 50,000 โดส โดยรัฐนิวยอร์กได้รับวัคซีนมาแล้ว 630,000 โดส และคาดว่าจะได้รับอีก 300,000 โดส ในสัปดาห์หน้า

 

นอกจากนั้น คัวโม เรียกร้องโรงพยาบาล บ้านพักคนชรา และบุคลากรทางการแพทย์ ดำเนินการฉีดวัคซีนจนถึงช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลอื่นๆ ที่กำลังใกล้เข้ามา เพื่อรับรองว่าผู้ป่วยในบ้านพักคนชราและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนวหน้าได้รับการคุ้มครองโดยเร็วที่สุด

อนึ่ง เมื่อนับถึงบ่ายวันอังคาร (22 ธ.ค.) ข้อมูลจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ระบุว่า รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 36,717 ราย ซึ่งนับว่ามากที่สุดในสหรัฐฯ

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนเดินบริเวณใต้สะพานบรุกลินในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้หญิงคนหนึ่งเดินบนถนนที่ว่างเปล่า บริเวณจัตุรัสเลสเตอร์ในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

โควิด-19, ชนิดกลายพันธุ์

 

แฟ้มภาพซินหัว : ผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านรูปปั้นชื่อดังในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 21 ธ.ค. 2020)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ