ข่าว

เปิดใจคุณแม่ลูกสอง ลูกสาวแพปลาบ้านแพ้ว สมุทรสาคร ถึงสถานการณ์โควิด-19  

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจ คุณโชติกา แก้วสองสี คุณแม่ลูกสอง ลูกสาวธุรกิจแพปลากระพง ใน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดรอบใหม่ เจ้าตัวห่วงเรื่องราคาหน้ากากอนามัยที่สูงขึ้น และเป็นกำลังใจให้พี่น้องผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ 

     จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้หลายคนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ต่างหวาดผวากันไปหมด เนื่องจากจำนวนการติดเชื้อที่มากขึ้นทุกวันตามลำดับ ซึ่งคนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีความเชื่อมโยงกับตลาดกุ้งเกือบทั้งหมด วันนี้ทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์ได้พูดคุยกับ คุณโชติกา แก้วสองสี คุณแม่ลูกสอง คนพื้นเพบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่มาทำธุรกิจขายของออนไลน์ในกรุงเทพ ฯ เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ที่บ้านเกิดของเธอคนนี้ 

เปิดใจคุณแม่ลูกสอง ลูกสาวแพปลาบ้านแพ้ว สมุทรสาคร ถึงสถานการณ์โควิด-19  

     คุณโชติกา เปิดเผยด้วยสีหน้ากังวลว่า ตนเองเป็่นลูกในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเลี้ยงปลากระพง ใน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ครอบครัวเพิ่งจะนำปลากระพงที่เลี้ยงไว้ไปขายกับตลาดปลาที่อยู่ใกล้กับตลาดกุ้งที่ตกเป็นข่าว ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจและรู้สึกโชคดีที่ครอบครัวได้ขายปลากระพงไปก่อนที่จะมีเหตุการณ์การแพร่ระบาด มิฉะนั้นคงเป็นปัญหาในการดูแลปลาที่ขายไม่ได้และต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น รวมไปถึงกังวลเรื่องการติดเชื้อ ทั้งนี้ตนเองขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องที่เลี้ยงกุ้งและปลาให้ผ่านช่วงที่ลำบากช่วงนี้ไปให้ได้      

     คุณโชติกา เล่าถึงสถานการณ์ ณ เวลานี้ ที่บ้านเกิดของเธอ ว่า ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ปลูกบ้านติดกันหลายหลัง มีผู้อาศัยใกล้ชิดกันกว่า 10 คน ขึ้นไป มีทั้งผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ตนรู้สึกมีความเป็นห่วงอย่างมากกังวลว่าจะมีใครในครอบครัวต้องติดเชื้อในครั้งนี้ แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปหาหรือทำอะไรได้ไปมากกว่าช่วยหาซื้ออุปกรณ์ปกป้องต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เป็นต้น 

เปิดใจคุณแม่ลูกสอง ลูกสาวแพปลาบ้านแพ้ว สมุทรสาคร ถึงสถานการณ์โควิด-19  

     "ที่บ้านบอกว่าราคาหน้ากากอนามัยที่สมุทรสาครนั้นเริ่มสูงขึ้น หายากมากขึ้น เนื่องจากปริมาณความต้องการของผู้คนมีมาก ส่วนบรรยากาศภายในเมืองที่ก่อนหน้าเต็มไปด้วยความคึกคักมาวันนี้แทบจะกลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว ผู้คนต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าออกมานอกบ้าน" คุณโชติกา กล่าว

     คุณโชติกา ยังฝากวิงวอนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมดูแลเรื่องราคาหน้ากากอนามัยรวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ ในลงมาดูแลความคุมราคาไม่ให้สูงเหมือนอย่างครั้งที่ผ่านมา โดยตนเองเคยซื้อหน้ากากอนามัยแพงที่สุดมาแล้วในราคา 850 บาท ต่อ 1 กล่อง ซึ่งถือว่าแพงเกินจริงไปมาก โดยครั้งที่ผ่านมาโควิด-19 ระบาดรอบแรกตนเองหมดเงินไปกว่าหมื่นบาทในการซื้ออุปกรณ์ เพื่อปกป้องตนเองและลูกทั้งสอง 

เปิดใจคุณแม่ลูกสอง ลูกสาวแพปลาบ้านแพ้ว สมุทรสาคร ถึงสถานการณ์โควิด-19  

     "เมื่อวานนี้ไปเดินตลาดซื้อหน้ากากอนามัยสังเกตุได้ว่าหน้ากากเริ่มมีการขึ้นราคา จากปกติเคยซื้อไม่ถึง 100 บาท แต่มาวันสองวันนี้ราคาขยับสูงไปเกิน 100 บาทแล้ว บางที่สูงถึง 200 บาท" คุณโชติกา กล่าว

 

     สุดท้าย คุณโชติกา กล่าวไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ ว่า อยากให้ทางกระทรวงพิจารณาในการปิดโรงเรียนเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีข่าวว่าในพื้นที่กทม.มีผู้ติดเชื้อบ้างแล้ว ซึ่งโรงเรียนถือว่าเป็นที่แออัดมีนักเรียนผู้ปกครองรวมไปถึงบุคคลากรต่าง ๆ มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้  

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ