ข่าว

ดราม่า สาว นร.รีวิวฝังยาคุมกำเนิด แม่ด่าน่าอาย รับไม่ได้ งานนี้ความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดราม่า สาวนักเรียนรีวิวฝังยาคุมกำเนิด แม่ด่าน่าอาย รับไม่ได้ งานนี้ความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง มีทั้งเห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย

กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงโดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง กรณีที่หญิงสาวนักเรียนได้โพสต์ทำรีวิวฝังยาคุมกำเนิด สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 โดยได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจาก สปสช. (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)

 

สำหรับการฝังยาคุมดังกล่าวเป็นการคุมกำเนิดระยะยาวแต่ไม่ถาวรประมาณ 3-5 ปี เมื่อถอดออกสามารถกลับมาท้องได้ปกติ ซึ่งหญิงสาวนักเรียนระบุว่า การทำลักษณะนี้เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเองและคนอื่นมากกว่า เธอมองว่าการคุมกำเนิดไม่ใช่เรื่องที่ควรอายเลย เพราะการรับผิดชอบต่อตัวเองนั้นเป็นเรื่องปกติและควรเอามาพูดได้แบบปกติ

 

 

ดราม่า สาว นร.รีวิวฝังยาคุมกำเนิด แม่ด่าน่าอาย รับไม่ได้ งานนี้ความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง

 

 

อย่างไรก็ตาม เธอโดนแม่และคนในครอบครัวสั่งให้ลบโพสต์และรู้สึกรับไม่ได้กับการกระทำในครั้งนี้ หากโรงเรียนทราบเรื่องที่ไปฝังยาคุมกำเนิด เขาจะให้ออกจากโรงเรียนแน่ มันเป็นเรื่องน่าอาย ไม่ใช่ฝรั่ง ทำไมไม่รักนวลสงวนตัว แม่รู้สึกอายและเขาคงจะด่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนลูก รวมถึงคนในครอบครัวที่เข้ามาด่า มาสั่งสอนเธออย่างมากมาย

 

 

ดราม่า สาว นร.รีวิวฝังยาคุมกำเนิด แม่ด่าน่าอาย รับไม่ได้ งานนี้ความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝั่ง

 

ขณะเดียวกันสาวนักเรียนคนนี้ก็ได้อธิบายหลังจากที่โดนคนในครอบครัวรับไม่ได้ ซึ่งเธอขอชี้แจงเป็นข้อ ๆ ที่เธอถูกด่าบอกว่า เหตุผลที่เธอต้องออกมารีวิวการคุมกำเนิด เพราะว่าปัจจุบันยังมีความคิดแบบนี้ในสังคมไทยอยู่ และที่สำคัญคือสิ่งนั้นดันมาจากในครอบครัวเธอเอง

 

เธอมองว่า การมีเซ็กส์คือเรื่องปกติ การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องที่ผิดตราบใดที่คุณมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น แต่เราต่างถูกตีกรอบด้วยจารีตที่ว่าเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว เด็กมีหน้าที่เรียนหนังสือ หรือการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักต้องมีหลังแต่งงานเท่านั้น ต้องรักษาพรหมจรรย์ไว้ ซึ่งเธออยากจะบอกว่านี่มันปี 2020 แล้ว และอยากให้มาเรียนรู้ใหม่ไปด้วยกัน

 

การมีเซ็กส์และการป้องกันไม่ควรถูกมองให้เป็นเรื่องน่าอาย มันคือการแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นด้วยซ้ำ ในปัจจุบันมีนโยบายมากมายที่สนับสนุนเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น 

 

ทั้งองค์กรที่คอยให้ความรู้ พ.ร.บ.ต่างๆ แต่การศึกษาไทยไม่ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้อย่างละเอียด และสร้างค่านิยมผิดๆ ให้กับตัวนักเรียนเอง ทำให้เกิดประเทศที่มีคุณแม่วัยใสมากที่สุดประเทศหนึ่ง การมีเพศสัมพันธ์ไม่ผิด การมีอารมณ์ทางเพศไม่ผิด แต่สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นเกิดจากการไม่ให้ความรู้ที่ดีพอ และมีค่านิยมที่ทำให้เด็กไม่กล้าที่จะปรึกษาผู้ใหญ่ต่างหาก 

 

“ไม่ใช่ฝรั่ง ทำไมไม่รักตัวเอง ง่ายเกิน?”

 

แอบเสียใจกับคำพูดที่ออกมาจากครอบครัวนะ แต่เรามองเห็นว่าคุณกำลังเอาเราไปเทียบกับคนต่างชาติ ซึ่งถ้าชาติที่คุณพาดพิงถึง เขามีอิสรภาพในการแสดงออกเรื่องเพศ มองการมีเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ แล้วทำไมเด็กไทยถึงทำแบบนั้นไม่ได้?

 

“พ่อแม่ไม่สั่งสอน” “ถ้าโรงเรียนทราบคงจะให้ออกจากโรงเรียน” “ใครจะชอบที่เราทำตัวแบบนี้”

 

ไม่ได้สอนจริงๆ นั่นแหละ ทั้งหมดเราหาความรู้มาเอง ติดต่อโรงพยาบาลเอง เข้าไปฝังยาคุมเอง เราเชื่อว่ามีเพื่อนๆหลายคนสนใจในเรื่องนี้ และเราก็เห็นแล้วค่ะ หลังจากที่เราโพสต์ เราเห็นฟีดแบคจากคนรอบตัวว่าเขาต้องการคุมกำเนิดเช่นกัน

 

เราเห็นว่าเกิดการแลกเปลี่ยนคำแนะนำ ความคิดเห็น ให้กำลังใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นในใต้โพสต์ของเรา เราอยากทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ควรพูดได้อย่างปกติในสังคมและเราคิดว่าสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องถูกต้อง

⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀

“การป้องกัน” ไม่ใช่เรื่องที่ผิด โรงเรียนไม่มีสิทธิ์ไล่ออกอย่างแน่นอน เรารับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม เราผิดตรงไหน

 

ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมายแบ่งเป็น 2 ฝั่งทั้งเห็นด้วย บางส่วนก็ไม่เห็นด้วย มองมุมของผู้ใหญ่ และเรื่องนี้ถูกแชร์ไปมากกว่า 1 หมื่นครั้งเลยทีเดียว

อ่านที่มาของเรื่อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ